SE-EDมึนแต่ไม่ถอย ร้านหนังสือโดนปลดจากห้าง

ในสภาพสังคมปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าธุรกิจที่เกี่ยวกับสิ่งพิมพ์กำลังอยู่ภาวะทดถอย เพราะการเข้ามาของเทคโนโลยีและระบบการสื่อสาร ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก

คนใช้เวลากับเครื่องมือสื่อสารมากกว่าที่จะอ่านหนังสือ ซึ่งปกติอัตราการอ่านหนังสือของคนไทยต่อปี ก็นับว่าน้อยอยู่แล้ว ยิ่งน้อยลงไปอีก

การข่าวเรื่องของการปิดหนังสือ วารสาร สิ่งพิมพ์ ปิดโรงพิมพ์ หันไปประกอบธุรกิจอื่นที่ให้ประโยชน์ตอบแทนที่ดีและมีอนาคตที่ดีกว่า

แต่ก็ยังมีบางบริษัทที่ยังคงมีแนวคิดที่จะปลุกกระแสให้ประชาชนคนไทยกลับมารักการอ่านอีกครั้ง

อย่างบริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SE-ED ที่ทำธุรกิจด้านสิ่งพิมพ์ แม้จะประสบกับภาวะการถดถอยของธุรกิจ และการดำเนินงานมาอยู่หลายปี ก็พยายามลุกขึ้นประคับประคองให้หนังสือยังยืนอยู่ได้ ภายใต้ยุคดิจิตอล

ซีเอ็ดถือเป็นเจ้าของร้านจำหน่ายหนังสือที่ใหญ่และมีสาขามากที่สุดในประเทศไทย ได้จัดกิจกรรมเพื่อสร้างนักอ่าน เพิ่มคนรักหนังสือ ปรับปรุงร้านหนังสือที่มีอยู่เพื่อให้ตรงใจและเข้าถึงคนอ่านมากที่สุด

บางสาขาต้องยอมรับว่าอาจคนเข้าไปใช้บริการน้อย แต่ก็ยังไม่ขยับปรับลดสาขา อยากคงสถานะอยู่ไว้ให้ได้นานที่สุด

บางสาขาเริ่มมีผู้ใช้บริการมากขึ้นหลังจากปรับรูปแบบ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ถือว่าเป็นกำลังใจสำคัญ

แต่ทว่าในโลกธุรกิจปัจจุบัน ก็ไม่ได้คำนึงถึงความสำคัญในเรื่องการอ่านหนังสือ

ประโยชน์สูงสุดนั่นคือคำตอบ

หากไปเดินตามห้างค้าปลีก หรือห้างสรรพสินค้า จะเห็นว่ามีร้านขายสินค้าและอุปกรณ์ไอทีเพิ่มปริมาณมากขึ้น ทั้งร้านใหญ่ ร้านเล็ก ขณะที่ร้านหนังสือมีน้อยมาก บางแห่งอาจไม่มีเลยสักร้านเดียว

ล่าสุดเพจเฟสบุ๊ค ของนายเกษมสันต์ วีระกุล Kasemsant Weerakunประธานคณะกรรมการ SE-ED ได้โพสต์ระบุว่า ขณะทีมซีเอ็ดพยายามที่จะรักษาร้านหนังสือไว้ให้ได้มากที่สุด โฮมโปรรามอินทราก็ขอให้ร้านเราย้ายออกก่อนข้อตกลงโดยไม่สนใจความเดือดร้อนของร้านหนังสือหรือผู้รักหนังสือแต่อย่างใด

ผมในฐานะประธานฯซีเอ็ด จึงต้องประกาศขอโทษลูกค้าที่ไม่สามารถอยู่ให้บริการได้

*ติดได้แป๊บเดียวโฮมโปรก็มาขอให้เอาออกเพราะกระทบภาพลักษณ์ของเขา ทีมผมไม่ยอมแต่ไม่รู้จะต้านทานได้นานแค่ไหน*

เป็นอีกข้อมูลหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า ร้านหนังสืออาจไม่ได้เป็นสาระสำคัญของห้างอีกต่อไปแล้ว