ทองคำในไทยราคาดีดสวนกระแสตลาดโลก

YLG เผยตลาดทองคำปี2564 ราคาทองคำยังทรงตัวสูง แม้ราคาในตลาดโลกปรับลดลง 5% แต่ราคาทองในประเทศกลับเพิ่มขึ้น 6% หลังค่าเงินบาทอ่อนค่า เพิ่มโอกาสทำกำไรให้นักลงทุนไทย มีทางเลือกออมทางด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 100 บาท ออมได้ 24 ชั่วโมง ทุกวัน

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลอดทั้งปี 2564 ที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งปีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงกับตลาดทองคำในประเทศไทยหลัก 2 ด้าน คือ ราคาทองคำในประเทศที่เปลี่ยนแปลงสวนทางกับราคาทองคำในตลาดโลก และพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันไปสู่การซื้อทองคำแบบออนไลน์มากขึ้น โดยในรอบปีที่ผ่านมาพบว่าราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลงประมาณ 5% แต่ราคาทองคำในประเทศกลับปรับตัวเพิ่มขึ้น 6% ซึ่งเป็นผลมาจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง อย่างไรก็ดีราคาทองคำในปี 2564 ทั้งปียังถือว่าเป็นอีกหนึ่งปีที่ได้รับอานิสงส์จากการระบาดของโควิด -19 ที่ทำให้นักลงทุนหันไปหาทองคำในสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉเพาะในรูปแบบออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น และคาดว่าแม้ในอนาคตหากสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น แต่นักลงทุนจะยังนิยมการลงทุนในออนไลน์ต่อไปเพราะเริ่มคุ้นเคย และมีความสะดวก

อย่างไรก็ตามในปีหน้าแม้จะมีปัจจัยลบเข้ามาต่อตลาดทองคำเช่น การลดวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณของสหรัฐ (QE) แต่มองว่าการลด QE ช่วงนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อทองคำมากนักเพราะสถานการณ์เงินเฟ้อปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง ส่วนกรณีที่มีสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามาเป็นทางเลือกของนักลงทุนในปัจจุบันซึ่งอาจจะกระทบการลงทุนในทองคำนั้น มองว่าไม่ใช่ปัจจัยที่น่ากังวล เพราะโดยปกตินักลงทุนจะกระจายความเสี่ยงการลงทุนไปในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น พันธบัตร อัตราแลกเปลี่ยน และหุ้น อยู่แล้ว การที่มีสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามาก็ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ แต่ทุกครั้งที่นักลงทุนต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยก็จะกลับมาลงทุนในทองคำ

ทั้งนี้วายแอลจียังคงคำแนะนำนักลงทุนแบ่งสัดส่วนการลงทุน โดยการมีทองคำในพอร์ต 5-15% เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยง อย่างไรก็ดีปัจจุบันการลงทุนในทองคำสามารถทำได้ง่าย ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะผู้ที่มีเงินทุนสูง แต่นักลงทุนรายย่อยหรือผู้ที่เริ่มลงทุนก็สามารถเข้าถึงการลงทุนในทองคำได้ โดยการลงทุนในรูปแบบของการออมทอง ซึ่งสามารถเริ่มออมได้เพียงเงินลงทุน 100 บาท ด้วยขั้นตอนที่สะดวกผ่านสมาร์ตโฟนหรือดีไวซ์ต่างๆ โดยผู้ออมที่สะสมทองคำไปจนครบจำนวน 1 กรัมขึ้นไป สามารถเลือกได้ว่าจะไถ่ถอนนำทองคำกลับไป หรือถอนเป็นเงินสด หรือ จะออมต่อเนื่อง ซึ่งขั้นตอนการสมัครง่ายๆ เพียงเปิดบัญชีออมทองที่ www.ylggoldsaving.com ใช้เอกสารเปิดบัญชีเพียง 3 อย่าง ประกอบด้วย บัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และหน้าสมุดบัญชีเงินฝาก เมื่อสมัครเปิดบัญชีพร้อมแนบไฟล์เอกสารและถ่ายรูปคู่บัตรประชาชนเรียบร้อยแล้ว สามารถเริ่มต้นการออมทองได้ทันที โดยเลือกออมได้ 2 รูปแบบ ทั้ง การออมทอง แบบรายวัน เริ่มเพียง 100 บาท สามารถกดออมในระบบด้วยตนเอง ตามวัน เวลา ที่สะดวก โดยไม่จำเป็นต้องออมทองทุกวัน สามารถเพิ่มยอดการออม และจำนวนครั้งในการออมต่อวันได้เช่นกัน ส่วนรูปแบบที่ 2 คือ การออมทอง แบบรายเดือน เริ่มต้น 1,000 บาทต่อเดือน ในรูปแบบของการหักผ่านบัญชีอัตโนมัติ ซึ่งสามารถกำหนดวันตัดรอบบิลได้ด้วยตนเอง และยังสามารถกดออมทองรายวันเพิ่มได้เช่นกัน นอกจากนั้น การถอนเงินจากระบบออมทอง จะไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆในการทำธุรกรรมเมื่อถอนเงินขั้นต่ำ 3,000 บาท ขึ้นไป

จุดเด่นของการออมทองกับวายแอลจีที่สำคัญ คือ เริ่มออมได้ด้วยเงินลงทุนน้อยสุด โดยวายแอลจีเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในขณะนี้ที่เริ่มต้นออมทองได้ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียงครั้งละ 100 บาท และสามารถขายทองขั้นต่ำได้เพียง 100 บาท จนถึงสูงสุด 3 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งวายแอลจีเป็นเจ้าแรกที่ผู้ออมสามารถกำหนดราคาในการเข้าซื้อทองคำได้เองจากการดูราคาเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ และสามารถเข้ามาซื้อทองคำในรูปแบบการออมทองได้ในราคาที่ต้องการตลอด 24 ชั่วโมง ผู้ซื้อสามารถซื้อขายได้ทุกระดับราคาไม่ว่าจะสะสมได้เท่าไหร่ก็สามารถขายได้ เริ่มต้น 100 บาท หากต้องการได้รับทองคำเก็บไว้ผู้ออม ก็สามารถสะสมทองคำไปจนครบจำนวน 1กรัม และไถ่ถอนนำทองคำกลับไป หรือ จะออมต่อเนื่องเพื่อสะสมความมั่งคั่งก็สามารถทำได้ แลกทองจริง เมื่อออมทองครบ 1 กรัมขึ้นไป

นอกจากนี้วายแอลจียังมอง ราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมาอยู่ในช่วงการปรับฐาน แต่หลังจากราคาปรับตัวลดลงมาสักระยะหนึ่งแล้ว ทำให้ในช่วงเดือนสุดท้ายของปี คาดว่าราคาทองคำจะมีโอกาสดีดตัวขึ้นเป็นระยะ โดยให้กรอบภาพใหญ่ไว้ที่ 1,877 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 30,200 บาท ระยะสั้นมองที่แนวต้าน 1,803-1,833 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 29,100-29,300 บาท แนวรับที่ 1,751-1,707 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 28,150-27,450 บาท อย่างไรก็ดี มีปัจจัยเสี่ยงที่นักลงทุนต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุน คือ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในช่วงวันที่ 14-15 ธ.ค.นี้


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment