BYD ปิดงบ 9 เดือน ปี 64 รายได้โต 268%

BYD โชว์ 9 เดือน ปี 64 รายได้รวมโต 268% เดินหน้าแผนลงทุนธุรกิจรถบัสไฟฟ้าหนุนรายได้โตต่อเนื่อง

นางสาวออมสิน ศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD เปิดเผย ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือน ปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564 ว่าบริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 82.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.31 ล้านบาท คิดเป็น 268.52% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็นรายได้จากค่านายหน้า 29.26 ล้านบาท ลดลง 0.91 ล้านบาท รายได้จากผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงิน 18.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67.43 ล้านบาท และยังคงมีกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทร่วม/ย่อย 27.87 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ได้มีการปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจเชิงรุก มุ่งขยายฐานลูกค้า จับกลุ่มตลาด Blocktrade และตราสารอนุพันธ์ เพื่อรักษารายได้จากค่านายหน้า เนื่องจากตลาดบล็อคเทรด ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อีกทั้งบริษัทฯ ยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายและบริหารจัดการต้นทุนได้ดีขึ้น โดยมีค่าใช้จ่ายรวมลดลงจาก 267.25 ล้านบาท เป็น 250.38 ล้านบาท ลดลงเท่ากับ 16.87 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6.31% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลงจาก 12.13 ล้านบาท เป็น 0.91 ล้านบาท ลดลง 11.22 ล้านบาทหรือคิดเป็น 92.50% ซึ่งเป็นผลมาจากตราสารหนี้เพื่อการกู้ยืมลดลง และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลงจาก 94.05 ล้านบาทเป็น 70.78 ล้านบาท หรือคิดเป็น 24.74% โดยมาจากการตั้งสำรองมูลค่าเงินลงทุนในตราสารหนี้ เงินให้กู้ยืมและประมาณการด้านคดีความเป็นหลัก

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือน ปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564 บริษัทฯ มีขาดทุนสุทธิ 167.33 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 77.07 ล้านบาทหรือ 31.53% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งหากไม่นับรวมรายการผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 70.78 ล้านบาท และประมาณการค่าใช้จ่ายจากคดีความจำนวน 47.50 ล้านบาทแล้ว จะทำให้บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิเพียง 49.05 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 244.40 ล้านบาท

นางสาวออมสิน ศิริ กล่าวอีกว่า บริษัทยังคงมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ โดยการพัฒนาและให้ความสำคัญกับบุคคลากร ร่วมกับการนำระบบเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและสร้างประสบการณที่ดีให้กับลูกค้าของเรา แต่ก็ต้องยอมรับในส่วนของแนวโน้มและการแข่งขันภายในอุตสาหกรรมที่มีความรุนแรงอย่างมาก บริษัทฯ จึงต้องมองหาโอกาสในการทำธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้างผลประกอบการที่เติบโตอย่างมั่นคงและต่อเนื่องให้แก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนของเรา ดังที่ได้เข้าลงทุนถือหุ้นในธุรกิจเดินรถโดยสารระบบไฟฟ้าหรือ E-Bus ซึ่งขณะนี้ได้รับรถแล้ว 77 คัน โดยมีการทยอยนำ E-Bus บรรจุเข้าให้บริการในสายการเดินรถไปแล้ว 4 เส้นทาง ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นมาและได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้ใช้บริการ มองว่าเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตและจะเป็นส่วนที่จะสร้างผลตอบแทนให้กับบียอนด์ได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่องในอนาคต