DDD ปิดงบ 9 เดือน ปี 64 รายได้โต 35%

DDD โชว์รายได้งวด 9 เดือน ปี 64 โต 35.47% เชื่อไตรมาส 4 ดีขึ้น ตามแผน Fit for Growth หลังปรับกลยุทธ์เน้นขายออนไลน์ ออกสินค้าใหม่ บริหารค่าใช้จ่าย คาดผลประกอบการทั้งปี โตตามเป้า

นางสาวนันทวรรณ สุวรรณเดช กรรมการ รองประธานกรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD เปิดเผยผลการดำเนินงานสำหรับงวด 9 เดือน ปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งหมด 1,083.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 283.67 ล้านบาท หรือ 35.47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของก่อน (yoy) โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากยอดขายออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับการออกผลิตภัณฑ์สินค้าใหม่และแบรนด์สินค้าใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่สนใจดูแลสุขภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ รายได้ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนนั้น บริษัทฯ มีรายได้หลักจากการขายรวม 868.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 166.08 ล้านบาท หรือ 23.65% ซึ่งคิดเป็น 80.13% ของรายได้รวมและรายได้อื่นๆ 215.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117.59 ล้านบาท หรือ 120.31% คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 19.87% ซึ่งรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น มาจากรายได้ส่วนงานธุรกิจผลิตภัณฑ์บำรุงผิว 384.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.07 ล้านบาท หรือ 15.30% จากยอดขายในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศฟิลิปปินส์ที่เติบโตเป็นอย่างมาก ทั้งจากช่องทางการจำหน่ายผ่านร้านค้าชั้นนำ (Modern Trade) และช่องทางออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการทำแผนการตลาดเพื่อนำสินค้าไปจำหน่ายมากขึ้น สำหรับรายได้จากธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมความงาม มียอดขายอยู่ที่ 483.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 115.01 ล้านบาท หรือ 31.23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากการเข้าซื้อกิจการของกลุ่มบริษัท คิวรอน จำกัด ครบ 100% เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ซึ่งการเติบโตขึ้นของรายได้ สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนกำไรขั้นต้นในช่วง 9 เดือนแรก ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 59% จาก 55% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาส 3 สัดส่วนดังกล่าวมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเพิ่มขึ้นเป็น 64% จาก 50% ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากการที่บริษัทสามารถเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าที่มีกำไรสูงมากขึ้น

อนึ่ง บริษัทฯได้ลงนามในสัญญากับ Netizen ในการปรับปรุงระบบ ERP ใหม่ โดยมุ่งหวังเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการวิเคราะห์ข้อมูล การบริหารจัดการสินค้าคงคลัง รวมถึงเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้ดีขึ้น โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 10 เดือน

นอกจากนี้ ในไตรมาสสุดท้ายของปี บริษัทฯ ยังคงเน้นขยายช่องทางการขายมากขึ้น โดยเฉพาะช่องทางการขายผ่านออนไลน์ รวมถึงการเพิ่มช่องทางขายใหม่ๆ ให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกเป้าหมาย และสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในยุคโควิด-19 เช่น การทำ Live stream เป็นต้น รวมถึงการรุกทำการตลาดในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเพิ่มจุดขายในประเทศฟิลิปปินส์และการเตรียมแต่งตั้งตัวแทนกระจายสินค้าในประเทศกัมพูชา ทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายและรักษายอดขายไว้ได้


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment