{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
ซาบีน่าระบุสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองกับโรงงานในจีน ดึงต้นทุนจ้างผลิตลดลง ดันอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น1-3% วางเป้าอีก 2 ปีข้างหน้า เพิ่มสัดส่วนจ้างผลิต
นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือSABINA ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดชั้นในแบรนด์ “ซาบีน่า” เปิดเผยว่า บริษัทได้รับอานิสงส์จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนอย่างชัดเจน หลังจากปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจโดยเพิ่มสัดส่วนการจ้างโรงงานในประเทศจีนผลิตสินค้า โดยต้นทุนการจ้างผลิตของซาบีน่าลดลงต่ำลง เพราะรงงานในจีนต้องการคำสั่งซื้อ ทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคา ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ของบริษัทหรือมาร์จินเพิ่มขึ้น
โดยในปี 2561 เรามีสัดส่วนการจ้างผลิตประมาณ 18% มีมาร์จินจากการจ้างผลิตอยู่ที่ 59% จากนั้นในไตรมาสแรกของปีนี้เพียงไตรมาสเดียว สัดส่วนการจ้างผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 33% มาร์จินขยับเป็น 62% หรือเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับตัวเลขทั้งปี 2561 ทำให้เราเชื่อว่า มีโอกาสที่มาร์จินในปี 2562 จะขยับขึ้นประมาณ 1-3% จากปี 2561 ซึ่งอยู่ที่ 51.6%”
ทั้งนี้อัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้บริษัท มีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนการจ้างผลิตจากปัจจุบันอยู่ที่ 30% ผลิตเอง 70% เป็น 50:50 โดยวางเป้าหมายดำเนินการภายใน 2 ปี ซึ่งกลยุทธ์นี้ นอกจากจะช่วยลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำลงแล้ว ยังเป็นการรองรับกับนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในอนาคตอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ซาบีน่ายืนยันมาโดยตลอดว่า ไม่มีนโยบายลดพนักงาน แต่จะไม่รับพนักงานเพิ่มเข้ามาทดแทนพนักงานที่ลาออกไป ดังนั้น การเพิ่มสัดส่วนการจ้างโรงงานในประเทศจีนผลิตสินค้า จะทำให้บริษัท ไม่จำเป็นต้องเพิ่มกำลังการผลิต ไม่ต้องลงทุนขยายโรงงาน แต่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทำให้บริษัท มีปริมาณสินค้ารองรับกับยอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยเป็นสินค้าคุณภาพที่ควบคุมตั้งแต่วัตถุดิบไปจนถึงกระบวนการผลิตภายใต้มาตรฐานแบรนด์ “ซาบีน่า”
นอกจากนี้ การที่อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นผลจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟดส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าที่จ้างผลิตในประเทศจีนลดต่ำลง ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแผนที่จะเพิ่มงบการตลาด เพื่อที่จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ และเพิ่มยอดขายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมคึกคักมากขึ้น
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS