“สัมมากร” ผนึก “แอสเซท โปร ”ปั้น “PROVIDENCE LANE Ekkamai-Ramintra” รุกตลาดไฮเอนด์

สัมมากร จับมือ “แอสเซท โปร” ทำโครงการ “PROVIDENCE LANE Ekkamai-Ramintra” บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่เพียง 12 หลัง เอกมัย-รามอินทรา มูลค่า 500 ล้านบาท ดึง “ป๊อด โมเดิร์นด็อก” นั่งแท่น “Brand Iconic” เปิดพรีเซล 9 –10 ต.ค. นี้

นายณพน เจนธรรมนุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) หรือ SAMCO เปิดเผยว่า บริษัท ได้จับมือกับ แอสเซท โปร พัฒนาโครงการ PROVIDENCE LANE Ekkamai-Ramintra บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ 3 ชั้น บนทำเลเอกมัย-รามอินทรา มูลค่าโครงการกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการ คิกออฟรุกตลาดบ้านหรูครั้งแรก ด้วยราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท เพื่อขยายตลาดสู่กลุ่มลูกค้าระดับบน ที่พบว่ายังคงมีแรงซื้อสูงสำหรับแผนการตลาด

ในโอกาสนี้บริษัทยังได้เลือ คุณป๊อด โมเดิร์นด็อก มาเป็น Brand Iconic ของโครงการฯ ด้วยบุคลิกที่มีความเป็นตัวเองสูง มีความเป็นศิลปิน อีกทั้งเป็นนักสร้างสรรค์ผลงานที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นเสมอ ซึ่งตรงกับคอนเซ็ปต์ของโครงการฯ เป็นอย่างมาก และพิเศษสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของโครงการ PROVIDENCE LANE Ekkamai-Ramintra 2 หลังแรกจะได้รับภาพวาดจากปลายพู่กันของคุณป๊อด อีกด้วย

“ต้องยอมรับว่าตอนนี้ตลาดมีการแข่งขันค่อนข้างมาก โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์ที่มีปัจจัยลบเข้ามาส่งผลกระทบทำให้กลุ่มผู้ประกอบการต่างต้องหาวิธีเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจของตนเองให้ยังดำเนินต่อไป สัมมากรก็เช่นเดียวกัน ที่ผ่านมาเรามีการปรับตัวอยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาระบบภายในเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพและเท่าทันต่อความต้องการของลูกค้า ทั้งในด้านการพัฒนาโครงการและการทำแคมเปญตลาด ทั้งนี้จากการสำรวจความต้องการปัจจุบันเราเล็งเห็นว่าในบางเซกเมนต์ยังคงมีดีมานด์อยู่อย่างต่อเนื่อง”

สำหรับภาพรวมการดำเนินงานที่ผ่านมาว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ซึ่งบริษัทฯ ได้ติดตามและประเมินผลกระทบต่างๆ เพื่อปรับแผนการดำเนินงานให้ทันต่อสถานการณ์ดังกล่าวเสมอ ไม่ว่าจะเป็นภาพรวมขององค์กรและสินค้า ที่มีการปรับเปลี่ยนทั้งภาพลักษณ์ ฟังก์ชั่น ดีไซน์ ให้มีความทันสมัย สามารถตอบโจทย์ความต้องการแต่ละเซกเมนต์ ของตลาด ส่งผลให้ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการเติบโตไปในทิศทางบวก และยังคงมีเรียลดีมานด์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดย 6 เดือนแรกปี 2564 มีรายได้รวมอยู่ที่ 716.39 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 6.52% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2563 ที่มีรายได้รวมจำนวน 672.52 ล้านบาท และตลอดปี 2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,701.50 ล้านบาท

นายกล้ายุทธ จินตนะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซท โปร กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือกับ สัมมากร พัฒนาโครงการ PROVIDENCE LANE Ekkamai-Ramintra นับเป็นการขยายตลาดมาสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจของเรา โดยมีสัดส่วนการลงทุนอยู่ 51:49 (สัมมากร: แอสเซท โปร) และเชื่อมั่นว่าจากประสบการณ์การดูแลลูกค้าระดับ พรีเมี่ยมและกลุ่มนิชมาร์เก็ตของเรา ผนวกกับความเชี่ยวชาญของทีมงานสัมมากรในด้านการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพสูง จะสร้างความต่างที่ตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มเป้าหมายที่พวกเราวางไว้ รวมถึงสามารถสร้างความพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้ากลุ่มนี้ และส่งผลให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน”

PROVIDENCE LANE Ekkamai-Ramintra ถูกพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ “Defining Me” เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ใส่ใจและให้ความสำคัญกับความเป็นตัวเอง สนุกสนานกับทุกสิ่งที่ทำ เปรียบเหมือนจิตรกรที่กำลังแต่งแต้มผลงานมาสเตอร์พีซบนผืนผ้าใบ ด้วยรูปแบบดีไซน์ Bauhaus (บาวเฮ้าส์) ผสมผสานระหว่างฟังก์ชั่นที่ทันสมัยกับความสวยงามของศิลปะ สะท้อนให้เห็นถึงรสนิยมของผู้พักอาศัยที่ต้องการความต่างอย่างลงตัว เน้นเจาะกลุ่มนิชมาร์เก็ตคนรุ่นใหม่ ที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นคนโสดหรือกำลังเริ่มสร้างครอบครัว พิเศษด้วยความเป็นส่วนตัวที่มีเพียง 12 หลังเท่านั้น บนไพร์มโลเคชั่นโซนเอกมัย-รามอินทรา ศูนย์กลางแห่งการใช้ชีวิตครบทุกด้าน ตัวโครงการฯ ตั้งอยู่บนที่ดิน 3-1-6.2 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 500 ล้านบาท มีขนาดตั้งแต่ 64.5 – 100.4 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 428 - 712 ตารางเมตรพร้อมลิฟท์และสระว่ายน้ำส่วนตัว อีกทั้งยังมีคลับเฮ้าส์และฟิตเนส

ด้าน นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด (CBRE) ที่ปรึกษาด้านงานขาย กล่าวว่า ตลาดบ้านเดี่ยวถือว่าเป็นตลาดที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่าตลาดคอนโดมิเนียมเพราะเป็นตลาดของผู้อยู่อาศัยเอง (End User) เป็นหลัก โดยตลาดบ้านเดี่ยวโดยเฉพาะระดับลักชัวรี่ที่มีราคาตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไปยังค่อนข้างคึกคัก มีการเปิดตัวสูงถึง 439 หลังในปี 2563 และมียอดขายอยู่ในเกณฑ์คงที่ประมาณ 60–68% ปัจจัยสำคัญเพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ประกอบกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้คนเห็นความสำคัญของบ้านมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องพื้นที่และฟังก์ชั่นการใช้งาน ทำเลที่ได้รับความนิยมมากอันดับต้นๆ คือ กรุงเทพฯ ชั้นในฝั่งตะวันออกและตอนเหนือ โดยทำเลกรุงเทพฯ ชั้นในฝั่งตะวันออกมีโครงการมากสุดถึง 1,073 หลัง ส่วนฝั่งเหนือ มีซัพพลายน้อยกว่าด้วยข้อจำกัดของที่ดิน ทำให้มีอัตราการดูดซับดีที่สุดและมียอดขายไปแล้ว 87% ในด้านพฤติกรรมของผู้บริโภคเนื่องด้วยสถานการณ์ปัจจุบันส่งผลลูกค้ากลุ่มนี้ให้ความสำคัญเรื่องพื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ต้องสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับกิจกรรมที่หลากหลาย มีพื้นที่สีเขียวที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ภายในบ้าน มีการนำเอานวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก อาทิ ERV (Energy Recovery Ventilator) เครื่องแลกเปลี่ยนอากาศ ที่ช่วยดูดความร้อนออกจากบ้านและเติมความเย็นเข้าไปในตัวบ้านทำให้บ้านเย็น เป็นต้น และอีกสิ่งที่ขาดไม่ได้คือเรื่องทำเล ลูกค้ากลุ่มนี้จะให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมรอบโซนที่อยู่อาศัย เน้นใกล้เมืองที่สามารถเดินทางเข้าออกได้ หลายทาง เชื่อมต่อไปยังโซนต่างๆ ได้ง่าย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมีอยู่ใน PROVIDENCE LANE Ekkamai-Ramintra”


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment