“กองทุนมิตรผล-บ้านปูฯ” เพิ่มงบช่วยไทยอีก 500 ล้านบาท

‘กองทุนมิตรผล-บ้านปู รวมใจช่วยไทย สู้ภัย COVID-19’ เเพิ่มงบประมาณอีก 500 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นเป็น 1,000 ล้านบาท พร้อมกลยุทธ์ 7 หมวดหมู่ของการส่งมอบความช่วยเหลือ

นายบรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร กลุ่มมิตรผล เปิดเผยว่า กลุ่มมิตรผลและบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ยืนยันเจตนารมณ์ของ “กองทุนมิตรผล-บ้านปู รวมใจช่วยไทย สู้ภัย COVID-19” ที่จะสานต่อภารกิจเคียงข้างคนไทย โดยจะมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือภาคประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ และสุขภาวะมากขึ้น ด้วยการจัดตั้งงบประมาณเพิ่มเติมอีก 500 ล้านบาท หรืองบประมาณเพิ่มเติมอีกบริษัทละ 250 ล้านบาท โดยกำหนดทิศทางการสนับสนุนและช่วยเหลือให้ตอบโจทย์ครอบคลุมประเด็นหลักๆ ที่สังคมไทยประสบจากวิกฤติโควิด-19 แบ่งเป็น 7 หมวดหมู่ ได้แก่ 1. การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ 2. การสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่โรงพยาบาลและหน่วยงานด้านสาธารณสุข 3. การสนับสนุนบริการสาธารณสุขเชิงรุก 4. การสนับสนุนงานด้านการป้องกันการแพร่ระบาด และกิจกรรมฌาปนกิจศพผู้ป่วยโควิด-19 5. การสนับสนุนกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และผู้เกี่ยวข้อง 6. การเยียวยาด้านสุขภาพจิต และ 7.จุดประสงค์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ด้านนางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วงเวลากว่า 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา กองทุนฯ ให้การสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์และสาธารณสุขที่จำเป็นในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แก่โรงพยาบาลและหน่วยงานสาธารณสุข รวมถึงช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบเชิงเศรษฐกิจในชุมชนต่างๆ ผ่านความร่วมมือและการสนับสนุนองค์กร มูลนิธิ และกลุ่มอาสาสมัคร รวมกว่า 380 หน่วยงาน ในพื้นที่ 40 จังหวัดทั่วประเทศ การแบ่งปันความรู้ ข้อมูล พร้อมถอดบทเรียนที่พบเจอจากการดำเนินงานที่ผ่านมา ทำให้เราเข้าใจปัญหา สามารถตอบโจทย์ตามความต้องการ และช่วยบรรเทาผลกระทบให้แก่ผู้ที่เดือดร้อนจากวิกฤติโควิด-19 ได้อย่างแท้จริง จึงผนึกกำลังกับกลุ่มมิตรผลในการเพิ่มงบประมาณอีก 500 ล้านบาท โดยมี 7 หมวดหมู่ เป็นเกณฑ์หลักในการพิจารณาส่งมอบความช่วยเหลือ นอกจากงบประมาณส่วนหนึ่งจะจัดสรรไว้เพื่อสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 แล้ว ครั้งนี้เราเน้นช่วยเหลือปัญหาด้านปากท้อง ชีวิตความเป็นอยู่ของกลุ่มผู้คนที่ได้รับผลกระทบ เป็นการเติมพลังใจคนไทยในการก้าวผ่านความยากลำบากจากวิกฤติที่เกิดขึ้น”

ในช่วงเสวนาพิเศษหัวข้อ “รวมพลังช่วยไทยอย่างไรให้ไปต่อ” ในงานแถลงข่าวออนไลน์ครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจากแขกรับเชิญ 4 ท่าน ได้แก่ ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่มีบทบาทในการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชน เพื่อการป้องกัน การปรับตัว และการดูแลตนเองให้ปลอดภัย คุณพรรณทิพย์ เพชรมาก รองผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับภารกิจสนับสนุนชุมชนในการบริหารจัดการเพื่อการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 และควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่แออัด หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล ผู้ก่อตั้ง “โครงการต้องรอด โดยกลุ่ม Up for Thai” ที่มาเน้นย้ำถึง 3 ระยะของการช่วยเหลือในช่วงเวลาที่เกิดภัยพิบัติ คือ ระยะเร่งด่วน ระยะเยียวยา และระยะฟื้นฟู ที่เราควรถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เกิดขึ้นให้แพร่หลายเพื่อการบริหารจัดการที่ดีขึ้นในอนาคต และ ดร.กฤษดา กฤตยากีรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เออร์เบิน โมบิลิตี้ เทค จำกัด ที่มากล่าวถึงจุดประสงค์ของโครงการ “มูฟมี อาสาขนส่ง ห่วงใย โดยกองทุนมิตรผล-บ้านปูฯ” ในการนำรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า MuvMi มาใช้ในการจัดส่งผู้ที่หายป่วยจากโควิด-19 เดินทางกลับบ้าน และการส่งของที่จำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 ทั้งอาหาร และชุดยาที่จำเป็นในการดูแลผู้ป่วยที่รักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation Kit) ในพื้นที่ที่ MuvMi ให้บริการทั่วกรุงเทพฯ


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment