พาณิชย์แนะใช้ออนไลน์เจาะตลาดซอสปรุงรสจีนสดใส ทูตพาณิชย์จีนแนะผู้ประกอบการ

ทูตพาณิชย์เมืองกวางโจว แนะนำให้ผู้ประกอบการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่เป็นเครื่องมือการตลาดอาหารกึ่งสำเร็จรูป อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง และซอสปรุงรสสำเร็จรูปพร้อมทาน หลังพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นางสาวศุภรา เสกาจารย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์และหาโอกาสส่งเสริมผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดไปยังประเทศจีน พบว่า ตลาดสินค้าเครื่องปรุงรสชนิดผสม โดยเฉพาะซอสปรุงรสสำเร็จรูปพร้อมทานยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในจีน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นซอสเนื้อปรุงรสและซอสเห็ดหอมปรุงรส โดยผู้บริโภคกลุ่มคนวัยเรียนและกลุ่มคนวัยทำงานมีแนวโน้มนิยมรับประทานซอสปรุงรสสำเร็จรูปพร้อมทานควบคู่กับข้าวเปล่าและบะหมี่มากขึ้น เพื่อความสะดวกรวดเร็ว อิ่มอร่อยและได้รสชาติ

ในปี 2563 มูลค่าตลาดสินค้าเครื่องปรุงรสในจีนสูงถึง 395,000 ล้านหยวน (ประมาณ 1,975,000 ล้านบาท) ที่น่าสนใจคือกลุ่มตลาดสินค้าเครื่องปรุงรสชนิดผสม มีอัตราการเติบโตต่อปี 15.83% มีมูลค่าตลาด 150,000 ล้านหยวน (ประมาณ 750,000 ล้านบาท) คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 400,000 ล้านหยวน (ประมาณ 2,000,000 ล้านบาท) ในปี 2573 ซึ่งยังมีช่องว่างการเติบโตทางการตลาดได้อีกเกือบ 2.7 เท่าตัว

จากกระแสความนิยมที่ผู้บริโภคชาวจีนมีต่อซอสปรุงรสสำเร็จรูปพร้อมทานที่เพิ่มขึ้น เหล่าดาราคนดังและเน็ตไอดอลหรือ KOL (ผู้มีอิทธิพลทางความคิด) ต่างทยอยกันออกผลิตภัณฑ์ซอสปรุงรสสำเร็จรูปพร้อมทานแบรนด์ใหม่ ๆ สู่ท้องตลาดและมียอดขายถล่มทลาย ประเด็นที่น่าสนใจคือ แบรนด์สินค้าซอสปรุงรสสำเร็จรูปต่าง ๆ ในจีนนิยมเจาะตลาดออนไลน์เป็นอันดับแรก โดยการประชาสัมพันธ์ให้แบรนด์สินค้าเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง แล้วจึงค่อยทำการเจาะตลาดออฟไลน์

ทูตพาณิชย์ เมืองกวางโจว มองว่า โอกาสทางการตลาดของสินค้าซอสปรุงรสสำเร็จรูปพร้อมทานในจีนยังคงสดใส โดยคู่แข่งในตลาดยังไม่ได้ผูกขาดทางตลาดมากนัก อีกทั้งเทรนด์การบริโภคอาหารที่ทำจากพืช ซึ่งดีต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมกำลังกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่ชาวโลกให้ความสำคัญ ไม่เฉพาะกับผู้บริโภคชาวจีนเท่านั้น ดังนั้นการคิดค้นผลิตภัณฑ์อาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจึงเป็นประเด็นที่ไม่ควรมองข้าม ผู้ประกอบการไทยควรติดตามเทรนด์การบริโภคอาหารต่าง ๆ ของผู้บริโภคชาวจีนอยู่เสมอ เพื่อพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ สินค้าให้ตรงและทันต่อความต้องการของผู้บริโภคชาวจีน และให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์สินค้าผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลต่าง ๆ ของจีน ไม่ว่าจะเป็น Tik Tok, Weibo, Xiaohongshu เป็นต้น อีกทั้งการร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับร้านอาหารบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่อาหารของจีน จะเป็น ปัจจัยให้สามารถเจาะตลาดจีนได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังสามารถเข้ากิจกรรมของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ อาทิ งานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX – ANUGA ASIA ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งจัดในลักษณะHybrid+ เป็นการผสมผสานการจัดงานระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ โดยกำหนดเริ่มกิจกรรมออนไลน์ในรูปแบบ Online Business Matching (OBM) และกิจกรรมเสมือนจริงที่จะมีขึ้นในวันที่ 29 ก.ย. - 3 ต.ค. 64 ได้ทาง www.thaifex-vts.com ขณะที่กิจกรรมออฟไลน์ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-28 พ.ค. 2565 ณ อิมแพค เมืองทองธานี


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment