SYNNEX กางแผนต่อยอดธุรกิจ ผ่าน “ซินเน็ค อินคิวท์เบชั่น” หนุนผลงานครึ่งปีหลังรับไฮซีซั่น

ซินเน็คฯดัน “ซินเน็ค อินคิวท์เบชั่น” บริษัทลูกหนุนผลงานโตกระโดด จับมือพันธมิตรรุกแพลตฟอร์มไอทีมือสอง แย้มยังมีดีลใหม่รอเปิดตัวเร็วๆ นี้ มั่นใจครึ่งปีหลังโตกว่าครึ่งปีแรก

นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (SYNEX) เปิดเผยว่า ซินเน็คฯ มองภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังเติบโตรับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี เพื่อรองรับ 5G Wifi 6 และ Cloud Service รวมทั้ง ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีเป็นช่วงทยอยเปิดตัวสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด โดยเฉพาะสินค้ากลุ่ม 5G กระตุ้นความต้องการผู้บริโภค และเป็นกลุ่มที่มีราคาสูง ทั้งนี้ หากสถานการณ์โควิด-19 ผ่อนคลายลง จะยิ่งกระตุ้นให้ภาพรวมตลาดคึกคักกว่าครึ่งปีแรกได้ โดยซินเน็คฯ ยังมุ่งมั่นรักษาความสามารถในการทำกำไรจากช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา มีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่แตะระดับ 4.8% โตกว่าเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ที่วางไว้จะโตกว่าปีก่อน

พร้อมทั้ง วางกลยุทธ์การเพิ่มพอร์ตสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง จากปัจจุบันบริษัทฯ มีแบรนด์ที่บริหารมากกว่า 60 แบรนด์ชั้นนำ อาทิ สินค้ากลุ่มเกมมิ่ง กลุ่มสุขภาพ หรือ Smart Health ที่คาดจะเห็นการจับมือกับพันธมิตรแบรนด์ใหม่เข้ามาเสริมพอร์ตมากขึ้น รวมทั้ง สินค้ากลุ่ม IoT อุปกรณ์ไอทีและเครื่องใช้ต่างๆ สามารถเชื่อมโยงหรือส่งข้อมูลถึงกันได้ด้วยอินเตอร์เน็ต ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค และกลุ่มซีเคียวริตี้ ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัยให้องค์กรธุรกิจต่างๆ ที่จะลงทุนและขยายระบบไอที เพื่อรับมือวิถีองค์กรนิวนอร์มอล

นอกจากนี้ ซินเน็คฯ มีแผนเปิดตัว House Brand ในสินค้า 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กลุ่มโทรศัพท์มือถือและแอคเซสเซอรี่ กลุ่มอุปกรณ์ต่อพ่วงสำหรับกลุ่มเกมมิ่ง และอุปกรณ์ต่อพ่วงสำหรับคอมพิวเตอร์ คาดจะเริ่มเห็นความชัดเจนในช่วงต่อจากนี้

อย่างไรก็ดี ซินเน็คฯ เดินหน้ายกระดับการบริการ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในบริการหลังการขาย และการทำการตลาดแบบ Omni Channel นอกจากนี้ ยังดูแล Official Store ให้หลากหลายแบรนด์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ และขยายการให้บริการ Fulfilment (บริการคลังสินค้าพร้อมจัดส่ง) เพื่อสนับสนุนลูกค้าที่ต้องการปรับธุรกิจไปสู่ออนไลน์อีกด้วย

สำหรับ บริษัท ซินเน็ค อินคิวท์เบชั่น จำกัด (Synnex Incubation) บริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นเพื่อลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยีร่วมกับพันธมิตร เพื่อสนับสนุนให้ซินเน็คฯ มีการเติบโตในธุรกิจที่แตกต่างไปจากธุรกิจหลักของบริษัทฯ ปัจจุบัน ได้เปิดเผยโมเดลธุรกิจแรกที่ได้เข้าไปร่วมลงทุนกับ บริษัท สวอป มาร์ท จำกัด (SWOPMART) ประกอบกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อรุกตลาดไอทีมือสองร่วมกัน ในรูปแบบ market place คาดว่าจะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ในสัดส่วนการถือหุ้น ซินเน็ค อินคิวท์เบชั่น 60% และพันธมิตร 40% และเตรียมเผยแผนต่อยอดธุรกิจร่วมกับพันธมิตรรายอื่น คาดจะเป็นอีกปัจจัยสนับสนุนให้ซินเน็คฯ มีโอกาสเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SYNEX กล่าวว่า ในปี 2564 บริษัทตั้งเป้าเติบโตโดยเน้นกำไรเป็นสำคัญ จากภาพรวมตลาดไอทีคึกคัก หลังมีความต้องการของผู้บริโภคในระดับสูง โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประชาชนปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต มีการ Work from Home และประชุมผ่านออนไลน์มากขึ้น ทำให้เห็นความต้องการสินค้าไอทีและเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน สนับสนุนให้ซินเน็คฯ มีกำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรก 396 ล้านบาท เติบโตถึง 33% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวม 17,018 ล้านบาท เติบโต 6%

ซินเน็คฯ เติบโตทำนิวไฮในแง่ของกำไร สะท้อนกลยุทธ์ในการบริหารผลิตภัณฑ์ และการเข้าสู่ยุคของเทคโนโลยี ที่มีดีมานด์จากผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก แม้สถานการณ์โควิด ในครึ่งปีแรกกลุ่มสินค้าไอทียังคงเติบโตทั้งยอดขายและกำไรขั้นต้น โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ และแอคเซสเซอรี่ รวมทั้ง กลุ่มเกมมิ่งมีความโดดเด่น ตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดอุปกรณ์เกมมิ่งในเมืองไทย ด้วยการเติบโตถึง 50% และมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 15% ของรายได้รวม ประกอบกับ สินค้าไอทีกลุ่มคอมเมอร์เชียล กำไรเติบโตจากปีก่อนค่อนข้างดีเช่นกัน โดยยังมีงานโปรเจ็กต์ที่ซินเน็คฯ รอรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง รวมทั้ง แผนการลงทุนของภาครัฐบาลและเอกชนต่อเนื่อง จะผลักดันให้สินค้ากลุ่มนี้ให้เติบโตขึ้นอีก สำหรับกลุ่มสินค้าโทรศัพท์มือถือ ภาพรวมแบรนด์แอปเปิลเติบโตค่อนข้างมาก รวมทั้ง แบรนด์เทคโนโมบาย ได้รับการตอบรับที่ดี รับอานิสงส์โทรศัพท์มือถือเป็นที่ต้องการในการทำธุรกรรมและกิจกรรมต่างๆ เพื่อเข้าสู่สังคมยุคดิจิทัล แม้สินค้าบางแบรนด์ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค แต่ในหลายรายการซัพพลายสินค้าเริ่มกลับมาดีขึ้น

อนึ่งคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก 2564 เป็นจำนวน 0.18 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 3 กันยายน 2564 นี้


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment