‘เอสเพอรานซ์’ รพ.บำรุงราษฎร์ เผยทางเลือกใหม่ในการรักษาเนื้องอกในเต้านมไม่ต้องผ่าตัด

‘เอสเพอรานซ์’ ศูนย์การรักษามะเร็งเชิงบูรณาการ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เผยทางเลือกใหม่ในการรักษาเนื้องอกในเต้านมชนิดปกติ โดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยนวัตกรรมการบำบัดด้วยความเย็น Cryoablation แผลเล็ก ปลอดภัยสูง

ผศ. พญ. ศศิธร สุจริตธนะการ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านศัลยศาสตร์มะเร็งเต้านม คลินิกเฉพาะทางด้านเวชกรรมมะเร็งเอสเพอรานซ์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดเผยว่า

คลินิกเฉพาะทางด้านเวชกรรมมะเร็ง ‘เอสเพอรานซ์’ ซึ่งเป็นศูนย์การรักษามะเร็งเชิงบูรณาการและเป็นส่วนหนึ่งของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ที่เน้นการใช้นวัตกรรมในการป้องกันก่อนเกิดโรค รวมถึงมีแนวทางการรักษามะเร็งแบบเฉพาะบุคคลด้วยวิธีแบบผสมผสาน ได้นำเทคโนโลยีการบำบัดด้วยความเย็น (หรือ Cryoablation) เข้ามาใช้ในการรักษาด้วยการสลายก้อนเนื้องอกในเต้านมชนิดปกติด้วยความเย็นติดลบ ด้วยอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งหรือต่ำกว่าลบ 170 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ทำให้เซลล์เนื้องอกตาย โดยการใช้เข็มที่บรรจุไนโตรเจนเหลวแทรกผ่านผิวหนังเข้าไปในก้อนเนื้อที่ต้องการกำจัดได้อย่างแม่นยำ โดยระหว่างการทำหัตถการ แพทย์จะใช้อัลตร้าซาวด์เพื่อช่วยระบุตำแหน่งให้เห็นเนื้องอกและก้อนน้ำแข็งที่ก่อตัวครอบคลุมก้อนเนื้องอกได้อย่างชัดเจน หัตถการนี้จะทำให้เกิดแผลที่ผิวหนังขนาดเล็กเพียง 3 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด และมีความปลอดภัยสูง

ข้อดีของการรักษาด้วยนวัตกรรมการบำบัดด้วยความเย็น เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด จึงไม่จำเป็นต้องวางยาสลบ แต่จะใช้วิธีการฉีดยาชาเฉพาะที่ ซึ่งจะมีรอยแผลเล็กเพียงประมาณ 3 มิลลิเมตรเท่านั้น ผู้ป่วยจึงมีอาการเจ็บน้อยมาก ฟื้นตัวได้เร็ว และสามารถกลับบ้านได้ในวันที่ทำการรักษา ที่สำคัญ วิธีนี้สามารถรักษารูปทรงของเต้านมได้ดีกว่าการผ่าตัด เนื่องจากไม่มีการทำลายของเนื้อเยื่อเต้านมปกติ ทำให้ลดความกังวลของผู้หญิงลง โดยโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มีศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมเต้านมเป็นผู้ทำหัตถการ และทำงานเป็นทีมร่วมกับสหสาขาวิชาชีพอื่นๆ ด้วยมาตรฐานคุณภาพในระดับสากล และเน้นความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นสำคัญ

“เซลล์เนื้องอกจะถูกทำลายไปจนหมดสิ้นระหว่างการจี้เย็นแล้ว จากนั้นร่างกายจะค่อยๆ สร้างเซลล์ใหม่ที่ปกติขึ้นมาแทนที่ ในช่วงแรกผู้ป่วยอาจยังรู้สึกว่ามีก้อนเนื้ออยู่ แต่ก้อนเนื้อจะมีขนาดเล็กลงจนกระทั่งร่างกายกำจัดไปหมด ซึ่งสามารถติดตามได้จากการตรวจอัลตร้าซาวด์ โดยระยะเวลาในการหายไปของก้อนเนื้อจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับขนาดของก้อนเนื้อและปัจจัยอื่นๆ ทั้งนี้ ผลจากการทำอัลตร้าซาวด์ใน 3 ระยะ พบว่า 1. หลังการทำ 6 เดือน ผู้ป่วยบางรายก้อนเนื้อหายไปหมด ในขณะที่บางรายก้อนเนื้อมีขนาดเล็กลง 2. หลังการทำ 1 ปี ก้อนเนื้อจะมีขนาดเล็กลงและมีขอบที่ไม่ชัดเจน ผู้ป่วยส่วนหนึ่งพบว่าก้อนเนื้อได้สลายไปแล้ว และ 3. หลังการทำ 2 ปี ผู้ป่วยทุกรายพบว่าก้อนเนื้อหายไปหมดแล้ว” ผศ. พญ. ศศิธร สุจริตธนะการ กล่าว

ทั้งนี้ผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ควรตรวจเช็คเต้านมด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ โดยลักษณะของก้อนเนื้องอกที่เต้านมชนิดปกติ คือก้อนเนื้องอกชนิดธรรมดาที่เกิดจากเซลล์ของท่อน้ำนม ส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นเพียงก้อนเดียว ซึ่งน้อยรายที่จะมีเกินหนึ่งก้อน แต่ก็จะมีจำนวนก้อนไม่มากนัก โดยจะมีรูปทรงกลมเรียบแต่มีขอบเขต ไม่แข็ง โดยก้อนเนื้อจะค่อยๆ โตขึ้นเพียงเล็กน้อย พบได้ตั้งแต่ก้อนเล็กกว่า 1 เซนติเมตร จนถึงขนาดใหญ่กว่า 5 เซนติเมตร ซึ่งควรจะต้องผ่าตัดเอาออกตั้งแต่มีขนาดไม่ใหญ่มาก สำหรับในกรณีที่ตรวจพบความผิดปกติในรูปแบบอื่นๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจประเมิน วินิจฉัยโรค และวางแผนการรักษาได้อย่างทันท่วงที


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment