โลตัส ผนึกสสว. และ SME D Bank ดันสินค้า SME ขึ้นห้าง

โลตัสร่วมกับสสว. SME D Bank ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoUส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SME ไทย ทั้งเปิดโต๊ะเจรจาธุรกิจการค้ากับจัดซื้อของโลตัสโดยตรง เพิ่มโอกาสการวางจำหน่ายสินค้าในห้างค้าปลีก

นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านบุคคลและความยั่งยืน โลตัส เปิดเผยว่าโลตัส โลตัส ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ สสว. และ SME D Bank เพื่อเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินการตามแผนงานที่เราได้วางไว้ ซึ่งการร่วมมือกับทั้งสององค์กรนอกจากจะช่วยให้เราได้เข้าถึงผู้ประกอบการที่มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ยังช่วยให้เราสามารถส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SME ไทยได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ผ่านความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านของแต่ละองค์กร ช่วยให้ผู้ประกอบการได้เข้าใจ และเข้าถึงตลาดผู้บริโภค และการประชาสัมพันธ์ได้มากยิ่งขึ้น โดยเรามีแผนงานที่จะจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจการค้าทุกวันศุกร์ที่ 3 ของเดือน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME ได้นำแสนอสินค้าให้กับทีมงานจัดซื้อของโลตัสได้โดยตรง เพิ่มโอกาสการวางจำหน่ายสินค้าในห้างค้าปลีก และแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบัน

ที่ผ่านมา โลตัส สสว. และ SME D Bank ได้จัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจการค้าแบบออนไลน์โดยมีจำนวนผู้ประกอบการเข้าร่วมรวม 154 ราย และกำลังอยู่ในการเจรจาความเป็นไปได้ในการจัดซื้อสินค้าเพื่อวางจำหน่าย 114 ราย โดยในกิจกรรมเจรจาการค้าครั้งที่สอง ในวันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านนี้ โลตัสได้มีการตกลงซื้อขายกับผู้ประกอบการ จำหน่ายสบู่เหลวสมุนไพรจากสารสกัดของใบพลู เนื่องจากผู้ประกอบการ SME รายนี้มีความพร้อมในการจัดส่งผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน และมีการวางกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่ชัดเจน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำหรับเกณฑ์การพิจารณาของโลตัส นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการหลายรายที่โลตัสให้ความสนใจและอยู่ในระหว่างการเจรจา จากหลากหลายหมวดหมู่สินค้าอาทิ กลุ่มสินค้าอาหารแห้ง กลุ่มสินค้าอาหารสดและอาหารพร้อมทาน กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ เป็นต้น

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน มีผลกระทบเป็นอย่างมากกับผู้ประกอบการ SME รายย่อย เราจึงอยากเชิญชวนผู้ประกอบการ SME ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม นำเสนอสินค้ากับโลตัส เพื่อเปิดโอกาสในการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่สาขาของโลตัส ได้ที่ www.TescoLotus.com/SME โดยโลตัสพร้อมช่วยเหลือในการพัฒนาสินค้า ผลักดันสินค้าให้ได้มาตรฐาน และให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการ SME เป็นรากฐานที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทยต่อไป”

นาย วีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า นโยบายของ สสว. ในปี 2564 จึงมุ่งเน้น 1) เพิ่มผลิตภาพ และลดต้นทุน 2) เพิ่มช่องทางการตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ในรูปแบบ Online และ Offline 3) เชื่อมโยงแหล่งเงินทุน ทั้งผ่านกองทุน สสว. และเครือข่ายพันธมิตร เช่น ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SME D Bank ซึ่งการลงนามความร่วมมือในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการให้สิทธิประโยชน์กับผู้ประกอบการที่ลงทะเบียน SMEs ผู้รับบริการภาครัฐ กับบริษัทบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (โลตัส) ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์ม หรือพันธมิตรการค้าที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการในการกระจายสินค้าไปสู่มือผู้บริโภคทั่วประเทศ

ความร่วมมือในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการแล้ว ยังเป็นการเติมเต็มสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกของ สสว. ในการเจาะตลาดโมเดิร์นเทรดอย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย เนื่องจากจากจำนวนสาขาของโลตัสที่มีมากกว่า 2,000 สาขา บวกกับสินค้าของกลุ่มผู้ประกอบการใหม่ (Early Stage) วิสาหกิจรายย่อย (Micro) วิสาหกิจขนาดย่อม (Small) ทั่วประเทศ ที่มีหลากหลาย จะได้มีโอกาสจับคู่เจรจาธุรกิจกับโลตัส สิ่งเหล่านี้จะเป็นการขยายช่องทางการค้าของผู้ประกอบการให้เติบโตและเข้มแข็งทางเศรษฐกิจในช่วงวิกฤติโควิด โดยช่องทางการจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการ อาจเป็นที่โลตัสทั่วประเทศ หรือตามความเหมาะสมตามความต้องการของตลาดและผู้ประกอบการ”

ด้าน นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank กล่าวว่า ความร่วมมือกับ โลตัส และ สสว. ครั้งนี้ จึงมีความสำคัญมากในการช่วยสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั้งกลุ่มลูกค้า SME D Bank และผู้ประกอบการทั่วไป สามารถขยายช่องทางตลาดผ่านเครือข่ายของโลตัส ซึ่งมีศักยภาพการตลาดสูงมาก ช่วยให้สินค้าของเอสเอ็มอีสามารถส่งตรงถึงมือผู้บริโภค เป็นการเพิ่มรายได้ เพิ่มยอดขาย รักษาการจ้างงาน รวมถึง ได้รับความรู้ สสว. ช่วยให้ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปได้ ขณะเดียวกัน เมื่อเอสเอ็มอีที่ผ่านการคัดเลือกจำเป็นต้องขยายกำลังผลิต หรือปรับปรุงมาตรฐานโรงงานผลิต รองรับการขยายตลาด ทาง SME D Bank เข้ามาเติมเต็ม ด้วยการจัดเตรียมสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษไว้รองรับ เช่น สินเชื่อรายเล็ก Extra Cash กู้ได้ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 3% ต่อปีใน 2 ปีแรก ผ่อนนานสูงสุด 5 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุด 12 เดือน ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน สินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.875% ต่อปี นาน 3 ปีแรก วงเงินกู้สูงสุด 5 ล้านบาท และสินเชื่อฟื้นฟู อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี ใน 2 ปีแรก ได้รับการยกเว้นดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนแรก ผ่อนนานสูงสุด 7 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุด 12 เดือน เป็นต้น

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ หรือแจ้งความประสงค์ขอสินเชื่อ ติดต่อได้ที่ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ SME D Bank รวมถึงสาขา SME D Bank ทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ เช่น LINE Official Account: @SMEDevelopmentBank , เว็บไซต์ธนาคาร (https://www.smebank.co.th/) และแอปพลิเคชัน SME D Bank ดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android เป็นต้น หรือสอบถาม Call Center 1357”


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment