STARK ฟอร์ม Q1/64 สวย

สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น(STARK) โชว์ไตรมาส 1/64 กำไร 441.12 ล้านพุ่ง 67.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ตุน Backlog ไว้ กว่า 13,000 ล้าน และรอลุ้นผลประมูลงานประเภท High Potential

นายประกรณ์ เมฆจำเริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2564 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564) มีรายได้รวม 4,660.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,637.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 3,023.75 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 441.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 178.27 ล้านบาท หรือ 67.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 262.85 ล้านบาท

สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลประกอบการมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากการรับรู้ผลประกอบการของการลงทุนที่เวียดนาม ส่งผลให้รายได้หลักในไตรมาส 1/2564 อยู่ที่ 4,655 ล้านบาท เติบโตประมาณ 54.1% จากปีก่อน ประกอบกับการมุ่งเน้นกลุ่มสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง (High margin product) โดยเฉพาะกลุ่มสายไฟแรงดันระดับกลางจนถึงระดับสูงพิเศษ (Medium – Extra High Voltage) ที่มีการเติบโตสูงเพื่อรองรับโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐและเอกชน ยังส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น 67.8% อีกด้วย

ขณะเดียวกันบริษัทได้ดำเนินแผนการลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย (Lean management) มาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้มีนโยบายที่ใช้โรงหลอม Dovina ที่ประเทศเวียดนาม เพื่อหลอม และแปรรูป เพื่อใช้ภายในกลุ่มบริษัทฯ ส่งผลทำให้บริษัทย่อย PDITL มีต้นทุนการผลิตที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร STARK กล่าวอีกว่าแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2564 ยังคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้ เติบโต 15-20% และมั่นใจว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง โดยจะมาจากรายได้หลักคือ ธุรกิจสายไฟฟ้า และสายเคเบิ้ล มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีไปพร้อมกับอุตสาหกรรมไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ และยังคงมุ่งเน้นการขายสินค้าในกลุ่มที่มีความสามารถในการทำกำไรได้สูง (High Margin) โดยเฉพาะกลุ่มสายไฟแรงดันระดับกลาง จนถึงระดับสูงพิเศษที่มีการเติบโตสูง เพื่อรองรับโครงการต่างๆ ของภาครัฐและเอกชน พร้อมกับการควบคุมต้นทุน และค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการบริหารจัดการร่วมกันของกลุ่มบริษัท จะช่วยให้เพิ่มความสามารถในการทำกำไรมากขึ้น

ขณะที่ปัจจุบัน บริษัทยังมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 13,000 ล้านบาท โดยเป็นงานทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะทยอยรับรู้ต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างรอลุ้นผลการประมูลงานประเภท High Potential ทั้งในและต่างประเทศรวมมูลค่าประมาณ 9,000 ล้านบาทอีกด้วย


COMMENTS

RELATED TOPICS

Please wait a moment