TPCORP รีแบรนด์เป็น “TPCS”

เท็กซ์ไทล์ เพรสทีจ (TPCORP) ในเครือสหพัฒน์ เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัท ทีพีซีเอส จำกัด (มหาชน) (TPCS) ปรับพอร์ตเพิ่มลงทุนหมวดเพื่อสุขภาพ วาง 6กลยุทธ์เดินหน้าธุรกิจ

นายสุชัย ณรงคนานุกูล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซีเอส จำกัด (มหาชน) (TPCS) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปลี่ยนชื่อใหม่ จากเดิม บริษัท เท็กซ์ไทล์ เพรสทีจ จำกัด (มหาชน) หรือ TPCORP เป็น บริษัท ทีพีซีเอส จำกัด (มหาชน) (TPCS) ซึ่งได้มีการแจ้งเปลี่ยนชื่อไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว พร้อมเพิ่มการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆโดยไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับสินค้าอุตสาหกรรมอย่างเช่นที่ผ่านมา

โดย TPCS จะให้ความสำคัญกับ Core Value ขององค์กร 4 ด้าน ประกอบไปด้วย Technology โดยการมุ่งลงทุนในนวัตกรรมและเทคโลยีที่ไม่ใช่เพียงการลงทุนกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ตามกระแสสังคม แต่เน้นการสร้างประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ใช้ได้จริง, People​​​ ให้โอกาสบุคลากรรุ่นใหม่ในการเสนอลงมือทำและบริหารจัดการ, Creativity ​​เน้นการทำงานโดยใช้ความคิดสร้างสรรค์ และ Sustainability คือการ​​ลงทุนในหลากหลายภาคธุรกิจเพื่อที่องค์กรจะสามารถอยู่รอดในทุกวิกฤติ

สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของ TPCS หลังจากนี้จะมุ่งไปยัง 6 กลยุทธ์ คือ 1) Digital Transformation เน้นการปรับปรุงกระบวนการทำงานเดิม ๆ โดยใช้ความรู้ด้าน Data Management และ Data Analysis ในทุกส่วนขององค์กร เพื่อให้การทำงานสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น 2) การลงทุนกับแบรนด์แทนการลงทุนเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ไม่จำเป็น เนื่องจากการยึดติดกับเทคโนโลยีใดเทคโนโลยีหนึ่งจะเป็นข้อจำกัดในการปรับเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีบน S-Curve ใหม่ได้ 3) ปรับเปลี่ยนการพัฒนาผลิตภัณฑ์จาก Tech Push ตามความสามารถของเทคโนโลยีที่บริษัทถือครอง และ Market Pull ตามความต้องการของตลาด มาเป็น Integrated Business Process โดยมีการระดมสมองร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เช่น การตลาด ฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฝ่ายขาย และซัพพลายเออร์ 4) ไม่เน้นการพัฒนานวัตกรรมแบบไร้ทิศทางแต่เน้นการสร้างผลประโยชน์จากนวัตกรรม 5) ทำงานด้วยระบบการเรียนรู้และวัดผล (Build-Measure-Learn) ในการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ และการผลิตสินค้าจำนวนมาก (Mass Scale) สำหรับสินค้าที่พัฒนาลงตัวแล้ว 6) เฟ้นหา-สร้าง-ให้โอกาสพนักงานที่มีความเป็นผู้ประกอบการในตัวเอง (Intrapreneur)

สำหรับ TPCORP ก่อตั้งขึ้นในปี 2519 เริ่มต้นจากการเป็นผู้ผลิตผ้าลูกไม้ให้กับแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก ต่อมาได้เพิ่มพอร์ตการลงทุนในอุตสาหกรรมที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง ทั้งสิ่งทอสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไม่ว่าจะเป็น วัสดุบุหลังคารถยนต์ พรมรถยนต์ ฉนวนกันเสียง ฉนวนในห้องเครื่องเพื่อป้องกันความร้อน หรืออุตสาหกรรมสินค้าเพื่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตให้กับแบรนด์ระดับโลกหลากหลายแบรนด์ รวมไปถึงการสร้างแบรนด์ Welcare เพื่อจำหน่ายสินค้าสุขภาพคุณภาพสูงในราคาที่จับต้องได้ให้กับคนไทย

ซึ่งบริษัทประสบความสำเร็จในตลาด B2B และสามารถอยู่รอดจากทุกวิกฤติเศรษฐกิจ เพราะมีความเชื่อว่าการลงทุนในอุตสาหกรรมหมวดใดหมวดเดียวนั้นนับเป็นความเสี่ยงต่อความยั่งยืนขององค์กร การยึดติดใน Culture Trap หรือยึดติดเทคโนโลยีเดิมๆนั้นเป็นการจำกัดตัวเลือกในการอยู่รอดขององค์กร บริษัทจึงมีแนวทางการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นการสร้างสรรค์สินค้าต่างๆให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคในหมวดเพื่อสุขภาพ เช่น อุปกรณ์ทางการแพทย์ ของใช้ในครัวเรือน สินค้าสำหรับแม่และเด็ก สินค้าไลฟ์สไตล์

นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาความรู้ความสามารถของบุคลากรให้ตื่นตัวต่อข่าวสารและการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยได้นำเทคโนโลยี นวัตกรรม และระบบต่างๆ เข้ามาปรับใช้ให้การทำงานสะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สำหรับทิศทางการบริหารงานหลังจากนี้ บริษัท จะเพิ่มการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆโดยไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับสินค้าอุตสาหกรรมอย่างเช่นที่ผ่านมา จึงเป็นที่มาของการรีแบรนด์เปลี่ยนชื่อดังกล่าว


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment