SPCGกำไรบูม5 ปีซ้อน

ซีอีโอ SPCG มั่นใจปีนี้โตต่อเนื่องหวังทำกำไรเพิ่มติดต่อกันมา 5 ปีซ้อน ปั้นรายได้จากโซลาร์ฟาร์มอีอีซี 500 เมกะวัตต์หนุน เริ่มบุ๊ครายได้ไตรมาส 3 ปีนี้เป็นต้นไป

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG เปิดเผยว่า ผลดำเนินงานในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาว่า บริษัทสามารถทำกำไรเพิ่มขึ้นได้ทุกปีมาอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์แนวโน้มผลดำเนินงานในปี 2564 นี้ว่า ยังคงเติบโตต่อไป เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะปีนี้ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% หรือประมาณ 5,500 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 5,000 ล้านบาท

สำหรับปัจจัยที่คาดว่า จะสนับสนุนให้บริษัทเติบโตตามเป้าหมาย มาจากการลงทุนทำโซลาร์ฟาร์มเพิ่มอีก 500 เมกะวัตต์ ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ (EEC) ซึ่งเป็นโครงการร่วมลงทุนระหว่าง SPCG กับบริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (PEA ENCOM) ในเครือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จัดตั้งบริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด ซึ่งเริ่มทยอยกำลังผลิตเฟสแรกที่ 300 เมกะวัตต์ และเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะรับรู้รายได้ทันที บริษัทจึงตั้งเป้ากำลังการผลิต 1,000 เมกะวัตต์ ในปี 2568 ประกอบกับปีนี้บริษัทตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิตรวมโครงการโซลาร์ฟาร์ม 36 โครงการอยู่ที่ 385 ล้านหน่วย รวมทั้งในปีนี้บริษัทยังบริหารจัดการ เพิ่มประสิทธิภาพและขยายโครงการลงทุนใหม่ทั้งในและต่างประเทศ

สำหรับผลดำเนินงานของบริษัท นับตั้งแต่ปี 2559 มีกำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2559 มีรายได้รวม 5,544.30 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 2,617.47 ล้านบาท ปี 2560 มีรายได้รวม 6,122 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,822.11 ล้านบาท, ปี 2561 มีรายได้รวม 6,046 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,923.58 ล้านบาท, ปี 2562 มีรายได้รวม 5,322 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,011.26 ล้านบาท, ปี 2563 มีรายได้รวม 5,047 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,062.37 ล้านบาท

ส่วนนายพิพัฒน์ วิริยธรานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บมจ.เอสพีซีจี กล่าวว่า รายได้ปีนี้ที่จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ส่วนหนึ่งมาจากการรับรู้รายได้จากโครงการโซลาร์ฟาร์มใน EEC เฟสแรก ซึ่งผลตอบแทนการลงทุนโครงการดังกล่าวมากกว่า 10% ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 200 เมกะวัตต์ คาดจะเริ่มผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในปี 2565

ทั้งนี้หากโครงการโซลาร์ฟาร์มใน EEC ดำเนินการครบ 500 เมกะวัตต์ จะสร้างรายได้ประมาณ 2.5 พันล้านบาท สามารถเข้ามาทดแทนโซลาร์ฟาร์มบางแห่ง ที่ทยอยหมด Adder ตั้งแต่ปี 2564-2567


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment