กดหัวราคาน้ำมัน ปรับโครงสร้างคำนวณราคา-ลดนำส่งเข้ากองทุน

"น้ำมัน" ยังคงเป็นพลังงานสำคัญในประเทศไทย แม้ว่าราคาจะขยับสูงแค่ไหน ปริมาณการใช้ก็ไม่ได้ลดลงไปเท่าใดนัก แม้ว่าจะมีพลังงานทางเลือกอื่นเข้ามาช่วยเสริมก็ตาม

ในช่วงที่ผ่านมา ราคาน้ำมันมีการขยับเพิ่มขึ้นมากกว่าการปรับลดลง แม้จะมีเสียงก่นด่า แต่ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อราคา บางคนเคยคิดเล่นๆ เปรียบเทียบราคาน้ำมันในตลาดโลกปัจจุบัน กับในช่วงเกิดวิกฤตพลังงานโลกเมื่อหลายสิบปีก่อน เปรียบเทียบค่าเงินบาทในช่วงเวลาเดียวกัน ราคาน้ำมันน่าจะต่ำกว่านี้มาก แต่ก็ไม่เกิดประโยชน์ใด

แต่จากวันนี้ อาจเป็นข่าวดีบ้าง เมื่อคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติปรับโครงสร้างเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่น สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิง ให้ใช้เกณฑ์ราคา Euro IV เป็นฐาน จากวิธีเดิมที่ใช้ Euro III เป็นฐาน เทียบเท่าสากล รวมไปถึงปรับปรุงโครงสร้างการคำนวณค่าขนส่ง และระบบโลจิสติกส์ที่มีการเปลี่ยนแปลง 

ผลการปรับสูตรใหม่ จะทำให้ราคาขายส่งน้ำมันหน้าโรงกลั่นมีส่วนลดลงไป สำหรับน้ำมันดีเซล 41 สตางค์/ลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลง 61 สตางค์/ลิตร และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ลดลง 43 สตางค์/ลิตร 

ถือเป็นราคาอ้างอิงจากฟากฝั่งรัฐบาล แม้ไม่ได้บังคับโรงกลั่นต้องทำตาม แต่ก็เป็นสัญญาณว่า พวกท่านต้องปฏิบัติตาม เป็นการออกมาในช่วงที่ราคาน้ำมันตลาดโลกอยู่ในช่วงขาขึ้น

แล้ว กพช. ยังอนุมัติให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์และดีเซล ลง 15 สตางค์/ลิตร เป็นระยะเวลา 2 ปีต่อจากนี้ไป เดิมเก็บ 25 สตางค์/ลิตร ก็จะลดลงเหลือ 10 สตางค์/ลิตร เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย.เป็นต้นไป

เมื่อรวมทั้ง 2 เรื่องแล้ว จะทำให้ราคาขายส่ง (ก่อนรวมค่าการตลาดและจัดจำหน่ายตามสถานีบริการ) ลดลงได้ 60-80 สตางค์/ลิตรสำหรับน้ำมันทุกประเภท

ส่วนผู้ประกอบการรายใดจะปรับเท่าใด ก็แล้วแต่ แต่ที่แน่ๆ ต้องลดลง 15 สตางค์ต่อลิตร ตั้งแต่ 21 เม.ย.2561

ล่าสุด บางจากฯ ประกาศปรับลดราคาน้ำมันทุกชนิด 21 เม.ย. 61 เวลา 05.00 น. 

ลดราคาน้ำมันทุกชนิด -30 ส.ต. ยกเว้น E85 ราคาคงเดิม BCP Retail Price: GSH95=28.20 // GSH91=27.93 // E20=25.69 // E85=20.49 // Diesel=27.54 // Hi Premium Diesel S = 31.41 (ราคาดังกล่าวรวมภาษีบำรุงท้องที่ กทม. แล้ว)

 -------------------