ซินเน็คฯปักธงรายได้ปี 64 โต 10 - 15% เพิ่มพอร์ตสินค้าดันมาร์จิ้น

ซินเน็คฯตั้งเป้ารายได้ปี 64 โต 10 - 15%วางแผนขยายพอร์ตสินค้าดันมาร์จิ้น ส่วนปี 63กำไรโต 23% ปันผลอีก 0.40 บ./หุ้น

นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (SYNEX) เปิดเผยว่า ในปี 2564 ตั้งเป้ารายได้ในปีนี้จะเติบโตในช่วงร้อยละ 10 – 15 จากปีก่อนทำได้ 32,148.70 ล้านบาท พร้อมรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่าปีก่อน โดยประเมินตลาดไอทีจะกลับมาเติบโตอย่างเต็มที่ หลังปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบในแง่สินค้าขาดตลาด รับวิถีชีวิตใหม่ของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสินค้าเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น มองอุปทานสินค้าจะเริ่มกลับมาเป็นปกติ สนับสนุนการเติบโตของตลาดคอนซูเมอร์ และองค์กรธุรกิจ รวมถึงนโยบายการลงทุนจากภาครัฐบาล

อีกทั้ง ในปี 2564 บริษัทตั้งเป้าขยายพอร์ตสินค้าเพื่อเตรียมพร้อมรับตลาดที่เติบโต ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และผลักดันสินค้าที่มีอัตรากำไรดีต่อเนื่อง ล่าสุด ซินเน็คฯ ได้จับมือแบรนด์ชั้นนำอย่าง realme พร้อมจำหน่าย และให้บริการหลังการขายผลิตภัณฑ์ realme ในกลุ่มสินค้า AIoT หวังเติมเต็มพอร์ตสินค้าไลฟ์สไตล์ให้แข็งแกร่งขึ้น และได้รับแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่กลุ่มคอมเมอร์เชียล ขยายตลาดเครื่องชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Charger ให้แก่เดลต้า (Delta) ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดนี้ สอดรับเทรนด์อุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า (EV) นอกจากนี้ ตลาดเกมมิ่งยังคงเป็นตลาดที่ซินเน็คฯ ให้ความสำคัญ เนื่องจากมีมูลค่าสูงและเติบโตอย่างรวดเร็ว ล่าสุด ซินเน็คฯ ได้แต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่าย Nintendo เพื่อขยายตลาดเกมคอนโซลในประเทศไทย สนับสนุนพอร์ตเกมมิ่งของซินเน็คฯ ให้แข็งแรงขึ้น โดยคาดจะเริ่มจำหน่ายในช่วงไตรมาส 2/2564 นี้

สำหรับผลประกอบการงวดประจำปี 2563 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563) มีกำไรสุทธิสำหรับปี 2563 เท่ากับ 641.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.53 จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากกำไรขั้นต้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และมีการบริหารค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร รวมถึงต้นทุนทางการเงินลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในการร่วมค้าก็มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากฐานทุนที่เพิ่มขึ้น จากการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงปลายปี

ขณะที่ มีรายได้จากการดำเนินงานสำหรับปี 2563 เท่ากับ 32,148.70 ล้านบาท ลดลงประมาณร้อยละ 7.63 จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) และสินค้าในกลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่หดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ เป็นผลมาจากอุปทานที่มีอย่างจำกัดของโทรศัพท์เคลื่อนที่ Huawei ซึ่งการลดลงบางส่วนได้ถูกชดเชยจากการเติบโตอย่างสูงของสินค้า Apple อย่างไรก็ตาม ความต้องการสินค้าไอทีเพิ่มขึ้นอย่างมากภายหลังจากการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ในช่วงไตรมาสที่ 2/2563 ส่งผลให้อุปทานของสินค้าหลายประเภท เช่น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ระบบการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอจอภาพ เครื่องพิมพ์และหมึก และชิ้นส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ เป็นต้น อยู่ในภาวะตึงตัว แต่ซินเน็คฯ สามารถรักษารายได้ของสินค้าไอทีให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน

ต้นทุนจากการดำเนินงานสำหรับปี 2563 เท่ากับ 30,740.99 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 8.17 และมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 4.38 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.82 ในปีก่อน โดยซินเน็คฯ เน้นการทำกำไรให้ดีขึ้นในภาวะที่อุปทานของ สินค้าหลายประเภทตึงตัว นอกจากนี้ ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าจากแบรนด์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยเดิมเพิ่มเติม เช่น Tecno Mobile, Razer, EPOS, Fujifilm Instax, Zircon เป็นต้น ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเท่ากับ 1,407.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 5.92 ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในปี2563 เท่ากับ 850.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.07 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 2.65 ของรายได้รวม เทียบกับร้อยละ 2.39

อนึ่งคณะกรรมการบริษัท พิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 0.54 บาท คิดเป็นเงินปันผลรวมทั้งสิ้น 457.58 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 ไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.14 บาท โดยจะจ่ายเงินปันผลส่วนที่เหลือของปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 9 มีนาคมนี้ และกำหนดการจ่ายเงินปันผลในวันที่14 พฤษภาคม 2564 หากได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 22 เมษายน 2564


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment