TTAเผยปี63มีรายได้1.2หมื่นล้าน

TTAเผยปี63มีรายได้1.2หมื่นล้าน โดยในไตรมาสที่ 4/2563 ปรับตัวดีขึ้น 216% เป็น 160.4 ล้าน

นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 12,829.8 ล้านบาท โดยรายได้ส่วนใหญ่ยังมาจาก 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง และกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันคิดเป็นร้อยละ 79 ของรายได้รวมทั้งหมด

ด้วยแผนรับมือเหตุฉุกเฉินทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพเพื่อดำเนินธุรกิจภายใต้สถานการณ์ที่ไม่คาดคิดประกอบกับความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมากว่า 100 ปี ทำให้กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) โดยมีอัตราค่าระวางเรือเทียบเท่า (TCE) เฉลี่ยทั้งปี 2563 อยู่ที่ 9,517 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน สูงกว่าอัตราตลาดสุทธิของเรือซุปราแมกซ์อยู่ร้อยละ 22 ด้านกลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง มีมูลค่าสัญญาให้บริการที่รอส่งมอบ 190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นปี 2563 ส่วนกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร มียอดขายปุ๋ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เป็น 206.6 พันตัน ในปี 2563

จากสาเหตุหลัก 3 ประการ 1) มาตรการการกักตัวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการนำเรือวิศวกรรมใต้ทะเลเข้าและออกอู่แห้ง 2) การนำเรือเข้าอู่แห้งตามข้อบังคับของเรือ และ3) อัตราค่าระวางเรือที่ถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 จึงทำให้ TTA มีผลขาดทุนสุทธิจากการดำเนินงานปกติในปี 2563 จำนวน 503.1 ล้านบาท และผลขาดทุนสุทธิ จำนวน 1,944.6 ล้านบาท ขณะที่กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 2,709.8 ล้านบาท อย่างไรก็ดี TTA ยังมีฐานะการเงินมั่นคงด้วยเงินสดภายใต้การบริหาร จำนวน 7.7 พันล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (net IBD/E) อยู่ในระดับต่ำที่ 0.08 เท่า และ EBITDA ยังคงเป็นบวกอยู่ที่ 704.2 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานของแต่ละกลุ่มธุรกิจ

กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ : โทรีเซน ชิปปิ้ง รายงานผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของ TTA จำนวน 390.9 ล้านบาท ในปี 2563 อัตราค่าระวางเรือเทียบเท่า (TCE) เฉลี่ยอยู่ที่ 9,517 ดอลลาร์สหรัฐต่อวันสูงกว่าอัตราค่าตลาดสุทธิของเรือซุปราแมกซ์อยู่ที่ 7,779 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน หรือร้อยละ 22 นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือ (OPEX) ยังคงต่ำ อยู่ที่ 3,709 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน และมีอัตราการใช้ประโยชน์ของเรือที่กลุ่มธุรกิจฯ เป็นเจ้าของอยู่ที่ ร้อยละ 100 ในปี 2563 ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2563 กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือเป็นเจ้าของเรือจำนวน 23 ลำ (เรือซุปราแมกซ์ จำนวน 22 ลำ และเรืออัลตราแมกซ์ จำนวน 1 ลำ) มีระวางบรรทุกเฉลี่ยเท่ากับ 55,686 เดทเวทตัน (DWT) และมีอายุเฉลี่ย 13.06 ปี

กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง : บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) หรือ เมอร์เมดฯ ได้เลิกดำเนินธุรกิจขุดเจาะแล้ว เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมันสูงมาก เมอร์เมดฯ จึงหันไปมุ่งเน้นงานสำรวจ ซ่อมแซม และซ่อมบำรุง (IRM) ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีความมั่นคงมากกว่า ปรากฏว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ผลการดำเนินงานได้กลับมาสู่ทิศทางที่ดีขึ้น โดยมีผลขาดทุนสุทธิจากการดำเนินงานปกติส่วนที่เป็นของ TTA ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 ปรับตัวดีขึ้นจากช่วงครึ่งแรกของปี 173 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 49 ส่วนกำไรขั้นต้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 186 เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2563 และร้อยละ 43 เมื่อเทียบกับครึ่งปีหลังของปี 2562 เป็น 177 ล้านบาท เนื่องจากมีเรือถูกส่งเข้าอู่แห้ง และเรือที่ถูกส่งไปเข้าอู่แห้งถูกกักตัวตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตลอดจนอัตราค่าจ้างต่อวันที่ลดลงของเรือที่เช่ามาทำงานแทนเรือที่ส่งไปเข้าอู่แห้ง ทำให้กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่งรายงานผลขาดทุนสุทธิจากการดำเนินงานปกติส่วนที่เป็นของ TTA จำนวน 538.6 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีผลขาดทุนทางบัญชีจากการขายหุ้นในบริษัทร่วม จึงทำให้เมอร์เมดฯ รายงาน ผลขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของ TTA จำนวน 2,000.5 ล้านบาท ในปี 2563 และมีมูลค่าสัญญาให้บริการที่รอส่งมอบ ณ สิ้นปี 2563 ยังคงแข็งแกร่งที่ 190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร : กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตรสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ในปี 2563 บริษัท พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PMTA มีรายได้จากการขายที่ 2,782.8 ล้านบาท ซึ่งค่อนข้างคงที่เมื่อเทียบกับปีก่อนท่ามกลางความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ปริมาณขายปุ๋ยทั้งหมดเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็น 206.6 พันตัน จากปริมาณส่งออกปุ๋ยที่เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยปริมาณขายปุ๋ยในประเทศ คิดเป็นร้อยละ 68 ของปริมาณขายปุ๋ยทั้งหมด ทรงตัวที่ 141.3 พันตัน ส่วนปริมาณส่งออกปุ๋ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 39 เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็น 65.3 พันตัน จากการทำการตลาดที่เข้มข้นและการมีเครือข่ายความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะในตลาดแอฟริกา ส่งผลให้ EBITDA เพิ่มขึ้นร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับปี 2562 เป็น 202.2 ล้านบาท นอกจาก ธุรกิจปุ๋ยเคมีแล้ว PMTA ยังให้บริการจัดการพื้นที่โรงงาน โดยมีพื้นที่ให้บริการ 66,420 ตารางเมตร ทั้งนี้ รายได้จากการบริการจัดการพื้นที่โรงงานและรายได้อื่นอยู่ที่ 51.5 ล้านบาท ในปี 2563 โดยสรุป PMTA รายงานผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของ TTA จำนวน 64.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 114 เมื่อเทียบกับปี 2562

กลุ่มลงทุนอื่นๆ:

กลุ่มธุรกิจอื่นๆ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มและกลุ่มการลงทุนอื่น

กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage)

พิซซ่า ฮัท ดำเนินงานภายใต้บริษัทย่อยที่ TTA ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 70 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 พิซซ่า ฮัท มีสาขาทั้งหมด 169 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งสาขาทั้งหมดที่เปิดใหม่เป็นสาขาที่เปิดตามหัวเมืองใหญ่

ทาโก้ เบลล์ เป็นเฟรนไชส์อาหารกึ่งเม็กซิกันสไตล์ที่มีชื่อเสียงชั้นนำระดับโลกจากประเทศสหรัฐอเมริกา ดำเนินงานภายใต้บริษัทย่อยที่ TTA ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 70 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 ทาโก้ เบลล์ มีสาขาทั้งหมด 8 สาขา ทั่วประเทศ ซึ่งสาขาทั้งหมดที่เปิดใหม่เป็นสาขาที่เปิดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

กลุ่มการลงทุนอื่น (Investment) มุ่งเน้นธุรกิจการบริหารทรัพยากรน้ำ และโลจิสติกส์

บริษัท เอเชีย อินฟราสตรักเชอร์ แมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (“AIM”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ TTA ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 80.5 เป็นผู้ออกแบบ ก่อสร้าง และให้บริการครบวงจรทางด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ AIM ยังได้รับสัมปทานในการจำหน่ายน้ำประปาในหลวงพระบาง ประเทศลาว ผ่านบริษัทย่อยที่ AIM ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 66.7


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment