{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
JKNเผยปี 2563 ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ มีกำไร เพิ่มขึ้น 24% จ่ายเงินปันผล0.2070 บาทต่อหุ้น ชูจุดแข็งธุรกิจคอนเทนต์สร้างความเข้มแข็งให้แก่ธุรกิจ Commerce ดันปีนี้แบบก้าวกระโดด
คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เปิดเผยว่า ในปี 2564 บริษัทตั้งเป้าเติบโต 10-15% พร้อมมุ่งทำอัตราการทำกำไรขั้นต้นโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 45% จากการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและการขยายตลาดส่งออกคอนเทนต์ไปยังต่างประเทศเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มมูลค่างานในมือ (Backlog) จาก ณ สิ้นปีที่มีกว่า 800 ล้านบาท และเพิ่มสัดส่วนรายได้จากตลาดส่งออกเพิ่มเป็น 50% ของรายได้รวมเพื่อผลักดันให้ JKN ก้าวสู่การเป็น Global Company ตอกย้ำผู้นำอุตสาหกรรมจำหน่ายลิขสิทธิ์ในภูมิภาคนี้
ขณะเดียวกัน JKN จะนำความเชี่ยวชาญการทำตลาดลิขสิทธิ์คอนเทนต์ ต่อยอดสร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มธุรกิจ Commerce ในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ-ความงาม สินค้าอุปโภคบริโภคครบวงจร ที่ครอบคลุมตั้งแต่ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อาหารแห้ง อาหารสำเร็จรูป ซึ่งดำเนินธุรกิจภายใต้ บริษัท เจเคเอ็น ลีฟวิ่ง เน็ทเวิร์ค จำกัด จากการที่บริษัทฯมีการผลิตและสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่หลากหลาย เพื่อสร้างโอกาสการ Tie-in สินค้าให้เข้าถึงผู้บริโภค ผ่านการออกอากาศทางสถานีทีวีดิจิตอลและแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Youtube: JKN Official ที่มีผู้ติดตามในช่องทางนี้กว่า 520,000 ยูสเซอร์ ส่งผลดีต่อกระแสความนิยมของสินค้าและทำให้เกิดความต้องการสินค้าและยอดขายได้ จึงทำให้ธุรกิจ Commerce เป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่จะเข้ามาช่วยการขับเคลื่อนการเติบโตตามแผนยุทธศาสตร์ของ JKN ให้ก้าวสู่เป้าหมายการเป็น Content Commerce Company อย่างที่ตั้งใจไว้
สำหรับภาพรวมการดำเนินงานในปี 2563 ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ JKN กล่าวว่า บริษัทประสบความสำเร็จจากการผลักดันธุรกิจให้การเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยทำกำไรสุทธิ 312.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 252.8 ล้านบาท จากปัจจัยการบริหารจัดการด้านต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะต้นทุนลิขสิทธิ์ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลดีต่ออัตราการทำกำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 45% จากเดิม 41% ในปี 2562
ขณะที่รายได้รวมปีนี้ บริษัททำได้ 1,701 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ในปี 2563 เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงอย่างรุนแรงจากปัจจัย COVID-19 แต่ด้วยจุดแข็งด้านความหลากหลายในเรื่องของลิขสิทธิ์คอนเทนต์ใน 8 กลุ่มครอบคลุมทั้งสาระและความบันเทิงครบทุกรูปแบบ ในลักษณะสิทธิ Output Deal จากเจ้าของสิทธิ์ที่เป็นแบรนด์ดังระดับโลก และความเชี่ยวชาญในการทำตลาดภายใต้กลยุทธ์ ‘ซูเปอร์สตาร์มาร์เก็ตติ้ง’ สร้างกระแสลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรีส์อินเดีย ฟิลิปปินส์ และละครไทย ไปยังตลาดใหม่ๆทั้งในประเทศและภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก ส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศ ณ สิ้นปี 2563 เพิ่มขึ้นเป็น 41% เทียบกับปี 2562 ที่มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 31.5%
อนึ่งคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลงวดผลการดำเนินงานในรอบปี 2563 ในอัตรา 0.2070 บาทต่อหุ้น โดยจะมีวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 16 เดือน มีนาคม 2564 และจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นวันที่ 28 เดือน พฤษภาคม 2564
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS