องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ร่วมกับสตง. จัดพิธีลงนามเอ็มโอยูความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามปัญหาการทุจริต

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) โดยนายวิเชียร พงศธร ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ร่วมกับสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดย นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามปัญหาการทุจริต โดยมีนายวิชัย อัศรัสกร รองประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และนายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ร่วมลงนามเป็นสักขีพยาน จากนั้นได้มีพิธีลงนามข้อตกลงคุณธรรมความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ ระหว่าง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (หน่วยงานของรัฐเจ้าของโครงการ) กับ กิจการร่วมค้า ไอทีดี–ซีอาร์อีซี (ผู้ประกอบการ) โดยมี รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค เป็นผู้นำทีมผู้สังเกตการณ์ ณ ห้องดำริอิศรานุวรรต สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน

นายวิเชียร พงศธร ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และ สตง. เป็นหน่วยงานหลักที่มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนเรื่องการต่อต้านการทุจริต จึงได้เสนอ “โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ” เข้าร่วมโครงการข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) เพื่อเป็นแบบอย่างในการแสดงเจตนารมณ์ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งประสานความร่วมมือในการตรวจสอบการดำเนินงาน ป้องกันการทุจริต และการร่วมเสริมสร้างทัศนคติค่านิยมในความซื่อสัตย์ สุจริต อันจะส่งผลต่อการลดปัญหาการทุจริตของประเทศให้น้อยลง และเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ และประชาชนต่อไป

ขณะที่นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวว่า สตง. ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ บนพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ 3 งาน บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร โดยได้เสนอขออนุมัติงบประมาณรายการค่าก่อสร้างเป็นจำนวนเงิน 2,560 ล้านบาท และได้รับการอนุมัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 ต่อมาได้ดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างก่อสร้างตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และได้ผู้ชนะการประกวดราคา ได้แก่ กิจการร่วมค้า ไอทีดี - ซีอาร์อีซี (บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด) ซึ่งเป็นผู้เสนอราคารายต่ำสุด ด้วยวงเงิน 2,136 ล้านบาท จากนั้นได้ดำเนินการจัดหาผู้ให้บริการควบคุมงานก่อสร้างตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยวิธีคัดเลือกผู้ให้บริการควบคุมงานจ้างก่อสร้าง โดยกิจการร่วมค้า PKW (บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด บริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนตส์ จำกัด และบริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ จำกัด) เป็นผู้ชนะการยื่นข้อเสนองานจ้างควบคุมงานด้วยวงเงิน 74.65 ล้านบาท



“ในการดำเนินโครงการดังกล่าว สตง. ได้ยึดหลักความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ประสิทธิภาพและประสิทธิผล ประหยัดและความคุ้มค่า ซึ่งสอดคล้องกับหลักการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 กล่าวคือ สตง. ได้ดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างโดยมีการเปิดเผยข้อมูลในทุกขั้นตอน มีการปฏิบัติต่อผู้ประกอบการทุกรายโดยเท่าเทียมกัน ตลอดจนกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการยื่นข้อเสนอ เป็นต้น จนกระทั่งได้ผู้ชนะการประกวดราคา ด้วยวงเงิน 2,136 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับราคากลางงานก่อสร้าง จำนวน 2,522.15 ล้านบาท จึงคิดเป็นจำนวนเงินที่ต่ำกว่าราคากลางทั้งสิ้น 386.15 ล้านบาท” ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าว


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment