{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
นายพีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) (FIRM) เปิดเผยว่า FIRM ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ “FTREIT” ได้จัดประชุมสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ ประจำปี 2564 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยรายงานผลประกอบการของปีงบประมาณ 2563 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 กองทรัสต์มีรายได้รวมทั้งสิ้น 3,048.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.6 และรายได้จากการลงทุนสุทธิจำนวน 2,099.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และสามารถจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนได้เพิ่มขึ้นเป็น 0.6690 บาทต่อหน่วยทรัสต์
สำหรับด้านการลงทุนของกองทรัสต์ ในปีที่ผ่านมา กองทรัสต์ได้เข้าลงทุนในทรัพย์สินคุณภาพสูงของกลุ่มบริษัทเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย และ กลุ่มบุคคลอื่นรวมทั้งสิ้น 60 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าการเข้าลงทุนประมาณ 4,908.0 ล้านบาท (ไม่รวม ภาษี ค่าธรรมเนียม และ ค่าใช้จ่าย) ทำให้พอร์ตโฟลิโอของกองทรัสต์ FTREIT มีพื้นที่ให้เช่ารวมเพิ่มขึ้น 192,537 ตารางเมตร ครอบคลุมพื้น 8 ทำเลยุทธศาสตร์ ที่ตั้งอยู่ใน 4 จังหวัด ทั้งนี้ จากการเข้าลงทุนดังกล่าวทำให้กองทรัสต์มีสินทรัพย์ศักยภาพสูงเพื่อการอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ภายใต้การบริหารจัดการรวมทั้งสิ้น 614 ยูนิต หรือ คิดเป็นพื้นที่เช่า 1,871,012 ตารางเมตร และทำให้ FTREIT ยังครองตำแหน่ง กองทรัสต์เพื่ออุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยมูลค่าสินทรัพย์รวมกว่า 41,143.6 ล้านบาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2563
สำหรับปี 2564 สถานการณ์ทางเศรษฐกิจยังคงมีความท้าทาย FIRM ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ FTREIT ยังคงวางแผนการบริหารจัดการเชิงรุก เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 รอบใหม่ในประเทศ โดยมุ่งรักษาจำนวนผู้เช่าปัจจุบันของกองทรัสต์ และเพิ่มจำนวนผู้เช่าใหม่ที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์จากสถานการณ์โควิด-19 และอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตที่ดีเข้ามาในพอร์ตโฟลิโอของกองทรัสต์ อาทิ อุตสาหกรรมเวชภัณฑ์และยา และอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ เป็นต้น ตลอดจนเดินหน้าปรับปรุงและพัฒนาทรัพย์สินให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เช่ามากขึ้น ในส่วนของการบริหารเงินทุนในปีหน้านั้น ตามที่ประชุมผู้ถือหน่วยทรัสต์ได้มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป ในจํานวนไม่เกิน 846,716,114 หน่วย และอนุมัติวงเงินการกู้ยืมในจำนวนรวมกันไม่เกิน 10,000 ล้านบาท จะเป็นส่วนสำคัญในการใช้เป็นเงินทุนในการสนับสนุนการเข้าลงทุนในทรัพย์สินที่มีคุณภาพ และ มีศักยภาพในการเติบโตบนทำเลยุทธศาสตร์ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่กองทรัสต์ต่อไป
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS