RSทุ่มพันล้านรุกธุรกิจบริหารทรัพย์-สินเชื่อ

อาร์เอส ทุ่มเกือบพันล้าน ร่วมทุนกลุ่มบริษัทเชฎฐ์รุกธุรกิจ“บริหารสินทรัพย์-สินเชื่อรายย่อย” สร้าง New S-Curve โตก้าวกระโดด

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อาร์เอส กรุ๊ป ทุ่มงบลงทุน 920 ล้านบาท โดยได้รับการสนับสนุนวงเงินกู้จากสถาบันการเงิน เข้าซื้อหุ้น บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด ในสัดส่วน 35% ด้วยมูลค่าการลงทุน 920 ล้านบาท โดยเข้าลงทุนผ่าน บริษัท อาร์เอสเอ็กซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ อาร์เอส กรุ๊ป (อาร์เอส ถือหุ้น 100%) เพื่อสร้าง New S-Curve นั้น การเข้าซื้อลงทุนในกิจการ หรือ M&A เป็นอีกหนึ่งยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการสร้าง Ecosystem ให้มีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นการสร้างมูลค่าทางธุรกิจ เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และสร้างความยั่งยืนมั่นคงในระยะยาว

โดยบริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด ประกอบธุรกิจบริหารสินทรัพย์-สินเชื่อรายย่อย มีบริษัทย่อย 3 บริษัท (ถือหุ้น 100%) ได้แก่ บริษัท รีโซลูชั่น เวย์ จำกัด บริษัท บริหารสินทรัพย์ ซีเอฟ เอเชีย จำกัด และ บริษัท คอร์ทส์ เม็กก้าสโตร์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือเรียกรวมว่า กลุ่มบริษัทเชฎฐ์ ซึ่งประกอบธุรกิจหลัก ได้แก่

1) ธุรกิจบริหารหนี้ครบวงจร และที่ปรึกษาการบริหารจัดการหนี้ ดำเนินการโดย บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด มีพนักงาน Call center กว่า 400 คน และทีมติดตามและบริหารหนี้กว่า 100 คน สำหรับรองรับการให้บริการ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าพอร์ตให้บริการติดตามหนี้สินกว่า 45,000 ล้านบาท จำนวนบัญชีลูกหนี้กว่า 3 แสนราย ลูกค้าหลักได้แก่ กลุ่มสถาบันการเงินและที่มิใช่สถาบันการเงิน

2) ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ เข้าซื้อ รับโอนและบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ NPL ทั้งจากกลุ่มสถาบันการเงินและที่มิใช่สถาบันการเงิน ซึ่งบริษัทย่อยที่ทำธุรกิจนี้ ได้แก่ บริษัท บริหารสินทรัพย์ ซีเอฟ เอเชีย จำกัด ได้รับใบทะเบียนบริษัทบริหารสินทรัพย์จากธนาคารแห่งประเทศไทย (“ธปท.”) และ บริษัท รีโซลูชั่น เวย์ จำกัด ปัจจุบัน มีมูลค่าพอร์ตหนี้ภายใต้การบริหารกว่า 27,000 ล้านบาท จำนวนบัญชีลูกหนี้กว่า 1 แสนบัญชี

3) ธุรกิจปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล ภายใต้บริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท รีโซลูชั่น เวย์ จำกัด ดำเนินธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. และ บริษัท คอร์ทส์ เม็กก้าสโตร์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบธุรกิจให้สินเชื่อภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ปัจจุบันมีมูลค่าสินเชื่อคงเหลือประมาณ 300-400 ล้านบาท รวมทั้งหมดกว่า 1,000 บัญชี

ทั้งนี้อาร์เอสประเมิมนว่าภาวะแนวโน้มเศรษฐกิจในปัจจุบัน ส่งผลให้จำนวนหนี้ด้อยคุณภาพมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จึงมองเห็นโอกาสในการต่อยอดโมเดลธุรกิจ Entertainmerce ซึ่งปีที่ผ่านมา คาดว่ากลุ่มบริษัทเชฎฐ์ มีประมาณการรายได้รวมประมาณ 600-700 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิประมาณเกือบ 150-200 ล้านบาท นับเป็นโอกาสที่ดีที่จะสร้างการเติบโตให้กับบริษัท เพราะเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และยังมีแผนการเติบโตของพอร์ตบริหารหนี้และยอดสินเชื่อรายย่อยอย่างต่อเนื่อง แล้วในอนาคตวางแผนจะนำหุ้นบริษัทเชฎฐ์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายใน 3 ปี


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment