ปฏิรูป SE-ED คิดนอกกรอบ ตอกย้ำร้านหนังสือเบอร์ 1 คู่สังคมไทย

ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ นับเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ก้าวสู่วันร่วงโรย

ผู้ประกอบการตั้งแต่ใหญ่ไปจนเล็กมากมาย หันหน้าไปทำธุรกิจอื่นแทน ต้องลดขนาดธุรกิจ ย้ายโรงงานหนีออกนอกประเทศ จนกระทั่งปิดกิจการ

บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SE-ED ก็ไม่แตกต่างกัน ต้องยืนอยู่ท่ามกลางกระแสแห่งการเปลี่ยนผ่าน ผลประกอบการก็ติดลบ ทิศทางข้างหน้ายังไม่รู้จะออกหัวออกก้อย

จน นายเกษมสันต์ วีระกุล ได้ก้าวเข้ามารับตำแหน่ง ประธานกรรมการบริษัท ทำให้อนาคตข้างหน้าของ ซีเอ็ดถูกปลุกให้น่าสนใจและท้าทายยิ่ง

อยากให้คนไทยรักการอ่าน

ตอนที่เจ้าของเขามาชวน ผมก็ถามว่าอะไรคือวัตถุประสงค์ เจ้าของบริษัทตอบชัดเจนว่า เขารักการอ่านหนังสือ เขาก็อยากให้คนไทยรักการอ่านหนังสือ แล้วก็อยากให้ซีเอ็ดอยู่คู่กับสังคมไทย เป็นคำตอบที่ผมประทับใจมาก ผมซึ่งเป็นคนรักการอ่าน อยากให้คนไทยอ่านหนังสือมากๆ ก็เลยตอบรับมานั่งในตำแหน่งนี้

พลิกฟื้นธุรกิจให้กลับมาขาขึ้น

เป็นความจริงที่ว่าธุรกิจสิ่งพิมพ์อยู่ในช่วงขาลง แต่ธุรกิจการให้ความรู้ผมคิดว่ายังอยู่ในช่วงขาขึ้น เพราะในสังคมโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ คนต้องการความรู้ในทุกมิติ แต่ถ้าเราไปยึดติดธุรกิจหนังสืออย่างเดียว อันนี้เราจะอยู่ในธุรกิจขาลง เพราะฉะนั้นซีเอ็ดจะกลับมาแน่ๆ ในธุรกิจที่ให้ความรู้คน ขายความรู้คน ความรู้อาจจะอยู่ในรูปแบบหนังสือเป็นเล่มที่เป็นสิ่งพิมพ์ หรืออยู่ในรูปแบบดิจิทัล เพราะฉะนั้นซีเอ็ดจะต้องผสมผสานให้ลงตัวและเดินหน้าไป

ต้องเข้าใจ สร้างขวัญกำลังใจ

แนวทางเบื้องต้นทำให้พนักงานทุกคน ตั้งแต่ผู้บริหารลงมาจนถึงพนักงานระดับล่างสุด เข้าใจสถานการณ์บริษัทก่อนว่าสถานการณ์บริษัทอยู่ในภาวะไม่ง่าย ลำบาก ทุกคนต้องต่อสู้ความความคุโชนอย่างเต็มที่ สอง ต้องสร้างขวัญกำลังใจให้ทุกคนเห็นว่าเราไปได้

กลับหัวกลับหางรูปแบบบริหาร

วันนี้ซีเอ็ดยังบริหารเหมือนกันทุกสาขา ส่วนกลางยังเป็นคนคิดเป็นส่วนใหญ่ จากที่ผมได้เดินทางไป 30-40 สาขาเกือบทุกภาคแล้วนี่ แล้วก็ได้รับรายงานจากคนอื่นที่รวมไปด้วย วันนี้เราจะเริ่มกลับหัวกลับหางใหม่ เราจะกระจายอำนาจลงไปให้แต่ละสาขา มีสิทธิ์ตั้งแต่ช่วยเลือกหนังสือ ช่วยจัดชั้นต่างๆ ให้เหมาะสมกับตลาด เพราะแต่ละสาขามีเสน่ห์ และมีลูกค้าไม่เหมือนกัน ส่วนกลางก็จะช่วยส่งเสริมการขายที่เหมาะสมกับแต่ละจังหวัดมากขึ้น

สร้างบิ๊กดาต้าวิเคราะห์แก้ปัญหา

ตอนนี้เรามีข้อมูล มีบิ๊กดาต้า ที่ช่วยวิเคราะห์แต่ละสาขาเป็นอย่างไร ปัญหาทั้งหลายก็จะถูกแก้ไข โดยผมซึ่งเป็นประธานกรรมการ วันนี้ผมขอคณะกรรมการ ขอตั้ง Change Management อะไรที่มันเคยติดขัด ไม่ประสานกัน คณะกรรมการชุดนี้ โดยผมนำนี่จะช่วยกันแก้ไขอย่างรวดเร็ว และตัดสินใจทำ

หาเอ็มดีร่วมเดินทางเดียวกัน

ซีเอ็ดกำลังสรรหากรรมการผู้จัดการใหม่ ซึ่งเอ็มดีที่จะมาต้องมองภาพเดียวกันกับผมและฝ่ายจัดการมอง ก็คือซีเอ็ดอยู่บนฐานธุรกิจที่ให้ความรู้คน การให้ความรู้อยู่ในรูปแบบของหนังสือ รูปแบบดิจิทัล

เปิดแพลตฟอร์มดิจิทัลรับสัปดาห์หนังสือ

แพลตฟอร์มดิจิทัลของซีเอ็ดถูกพัฒนามาแล้ว 5 ปี แต่ยังไม่ถูกนำมาใช้ เพราะฉะนั้นปลายกุมภาพันธ์ ต้นมีนาคม ก่อนสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ เราจะเปิดตัวตรงนี้ แล้วทุกคนจะบอกว่าอ้าวซีเอ็ดมีของดีแบบนี้ด้วยเหรอ ทำไมไม่เห็นเคยใช้

ต้องคิดนอกกรอบ ทันสมัย

ผู้จัดการคนใหม่ต้องมาตอบโจทย์ตรงนี้ คนที่เข้าใจภาพตรงนี้ ต้องเป็นคนที่คิดนอกกรอบ เพราะทุกวันนี้ธุรกิจนี้มันต้องออกนอกกรอบได้ แล้วก็ต้องเป็นคนที่ทันสมัย พร้อมที่จะออกไปกลับสาขา ต้องไม่ลืมว่า ซีเอ็ดมี 350 สาขา มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย ดังนั้นเอ็มดีใหม่ต้องพร้อมที่จะทำงานหนักร่วมกับซีเอ็ด

ซีเอ็ดจะกลับมาเน้นความเป็นร้านหนังสือ

ซีเอ็ดจะค่อยๆ ลด non-book ลง แต่เดิมเราก็สับสนไปกลับตลาด ไปกับรายได้ ทำให้ non-book มาเยอะ ทำให้ภาพลักษณ์ของร้านอาจดูงงไปหน่อย สำหรับคนที่รักหนังสือ เราก็จะจัดระเบียบใหม่ อะไรที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับหนังสือ ก็จะถูกลดๆ ลงไปในที่สุด กลับมาเน้นความเป็นหนังสือ non-book ที่มีอยู่ก็อาจจะเกี่ยวข้องกับหนังสือ

ต่อยอดมาตรการปรับรูปแบบการขาย

จากนี้ไปจะเห็นซีเอ็ดคิดนอกกรอบมากขึ้น จากเดิมทีซีเอ็ดจะอยู่ในเขต comfort zone สบายๆ มีสาขาเยอะ ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป จะเห็นความคิดนอกกรอบมากขึ้น ไม่ว่าการขาย เทคนิคการขาย แบบแปลกๆ

มีเงินน้อยแต่อ่านได้มาก

คนที่รักการอ่าน แล้วมีสตางค์น้อย ผมบอกว่ารอเลย เดียวผมจะมีมาตรการมีน้อยอ่านได้มาก ก็คือมีสตางค์ แต่อ่านได้มาก ต้องยอมรับหนังสือราคาแพงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าจัดพิมพ์ ค่าเขียน ค่าจัดการทั้งหลายสูงขึ้น มีเงินห้าร้อยบาทอาจอ่านได้สองเล่ม แต่ต่อไปมีห้าร้อยบาท จะอ่านได้มากกว่านั้น

มั่นใจธุรกิจจะพลิกและดีขึ้น

ในปี 2561 ซีเอ็ดได้มีการปรับปรุง ปฏิรูปไปแล้วในระดับหนึ่ง ปี 59-60 ที่เคยขาดทุน มาปี 61 เริ่มกลับมามีกำไร แล้วเป็นปีแรกในรอบ 3 ปีที่ตัวเลขกลับมาเป็นบวก พนักงานมีโอกาสได้รับโบนัส ได้ประกาศไปแล้ว ก็เริ่มมีขวัญกำลังใจ ผมคิดว่าตอนนี้เรากลับมาอยู่ในจุดที่ถูกต้องแล้ว หากเป็นคนที่ไม่สบายหรือบาดเจ็บ ก็ต้องบอกว่าตอนนี้เลือดหยุดไหลแล้ว ดังนั้นปี 62 น่าจะเป็นปีที่สนุกขึ้น ท้าทายยิ่งขึ้น แล้วพนักงานมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ซีเอ็ดจะเป็นผู้นำวงการและยืนคู่สังคมไทย

ซีเอ็ดจะเป็นร้านขายความรู้ที่มีหนังสือในรูปเป็นเล่มจับต้องได้ เป็นดิจิทัล เป็นผู้นำของวงการนี้ในประเทศไทย เราต้องการเป็นเบอร์หนึ่ง จุดหมายต้องการให้คนไทยรักการอ่าน อยากให้คนไทยเก่งขึ้น แล้วซีเอ็ดจะอยู่คู่สังคมไทย