โรจูคิส ยื่นแบบไฟลิ่ง เสนอขาย IPO

นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า บมจ.โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนจำนวน 309 ล้านบาท แบ่งเป็น 618 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยเป็นทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 270 ล้านบาท และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 166 ล้านหุ้น หรือ คิดเป็นไม่เกิน 27.7% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ โดยแบ่งการขายเป็น (1) หุ้นสามัญเพิ่มทุน ที่เสนอขายโดยบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 60,000,000 หุ้น (2) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม จำนวนไม่เกิน 106,000,000 หุ้น เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์และแบรนด์ใหม่ ขยายธุรกิจในต่างประเทศ ลงทุนและพัฒนาด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล รวมถึงการลงทุนควบรวม ซื้อกิจการ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนต่อไป

ส่วนนางวรวรรณ ไชยกำเนิด ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเป็นผู้พัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ โดยบริษัทฯ มียอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า (Facial Moisturizer) ของประเทศไทยในปี 2562 เทียบกับกลุ่มบริษัทที่ก่อตั้งและบริหารงานโดยคนไทย* มีวิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านความงามและสุขภาพแห่งอนาคตของเอเชีย โดยการพัฒนาและนำเสนอนวัตกรรมได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยเป็นนวัตกรรมที่มีคุณภาพสูง มีความโดดเด่น แตกต่าง ใช้แล้วเห็นผลลัพธ์ชัดเจน คุ้มค่า ปลอดภัย และผู้บริโภคทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย (Beauty Convenience) พร้อมเน้นการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและหลากหลาย (Brand Portfolio) ภายใต้ 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ Rojukiss (โรจูคิส), PhDerma (พีเอชเดอร์มา), Best Korea (เบสท์ โคเรีย) และ Sis2Sis (ซิสทูซิส)



นอกจากนี้ บริษัท ยังมีระบบการบริหารจัดการธุรกิจอย่างมืออาชีพและมีประสิทธิภาพเหมือนบริษัทสากลขนาดใหญ่ แต่มีความยืดหยุ่นคล่องตัวเหมือนบริษัทท้องถิ่นขนาดเล็ก ภายใต้ทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจสินค้าความงามในระดับนานาชาติ มีระบบการบริหารจัดการต้นทุนผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ และมีพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญและน่าเชื่อถือสูง ทั้งหมดนี้จึงช่วยสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา (2560 – 2562) บริษัทฯ ได้พัฒนาสินค้าใหม่กว่า 80 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นส่วนผลักดันที่สำคัญให้บริษัทฯ มีรายได้รวมถึง 1,140.6 ล้านบาทในปี 2562 และส่งผลให้ Rojukiss เป็นแบรนด์เซรั่มบำรุงผิวหน้าที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าของผู้หญิง (Female Facial Moisturizer) ในปี 2562 Sis2Sis เป็นแบรนด์เคริ่องสำอางในซองพร้อมก้านหรือแปรงในตัว ที่มีผลิตภัณฑ์ลิปสติกที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยในเชิงปริมาณ (จำนวนหน่วย) และมีผลิตภัณฑ์ที่ปัดขนตา (Mascara) ที่มียอดขายเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทยทั้งในเชิงมูลค่าและปริมาณ ในปี 2562

สำหรับธุรกิจของบริษัทฯ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1. ธุรกิจพัฒนา จ้างผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพ จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร วางจำหน่ายผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าเพื่อสุขภาพและความงาม ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ และร้านค้าทั่วไป เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น วัตสัน โลตัส บิ๊กซี รวมถึงช่องทางตลาดออนไลน์ เช่น Lazada, Shopee และช่องทางออนไลน์ของบริษัทฯ ได้แก่ www.rojukiss.com และ Line@Rojukiss ขณะที่ช่องทางขายต่างประเทศ บริษัทฯ ดำเนินการผ่านตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้าที่บริษัทฯ แต่งตั้งขึ้นในประเทศ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ลาว กัมพูชา และมีแผนที่จะขยายตลาดใหม่เพิ่มเติมต่อไป 2. ธุรกิจให้บริการคำปรึกษาในการพัฒนาธุรกิจ การตลาดและการขาย แก่พันธมิตรผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ ในต่างประเทศ

บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่มั่นคงและมีผลการดำเนินงานทั้งในด้านยอดขายและกำไรที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ในงวดปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 2561 และ 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 599.9 ล้านบาท 865.4 ล้านบาท และ 1,140.6 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ตั้งแต่ปี 2560 ถึงปี 2562 เท่ากับร้อยละ 37.9 และมีกำไรสุทธิสำหรับปีเป็นจำนวนเงิน 57.5 ล้านบาท 105.8 ล้านบาทและ 190.1 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ตั้งแต่ปี 2560 ถึงปี 2562 เท่ากับร้อยละ 81.8 สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2562 และ 2563 บริษัทฯ มีรายได้ 272.5 ล้านบาท และ 302.4 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราเติบโตร้อยละ 10.9 และบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 54.7 ล้านบาท และ 65.1 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราเติบโตร้อยละ 18.9


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment