FPI เปิด Q3/68 กำไรเติบโต 1,254% เร่งเครื่องขยายไลน์ชิ้นส่วนรองรับ EV

บมจ.ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) เปิดผลการดำเนินงานไตรมาส 3/68 รายได้รวม 725 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4% ขณะที่กำไรสุทธิ 99 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 1,254% จากปีก่อน เดินหน้ารับโอกาสใหม่จากตลาดซ่อมบำรุง และชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) นใจโครงสร้างทุนแข็งแรง สภาพคล่องดี แม้อุตสาหกรรมรถยนต์โดยรวมชะลอตัว

นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (FPI) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 3/2568 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568) มีรายได้รวม 725 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่มาจากยอดขายในประเทศ และบริษัทย่อยต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น มีกำไรสุทธิ 99 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 7.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,254.1% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากบริษัทย่อยในประเทศ และต่างประเทศกลับมามีกำไรสุทธิ

ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือน ปี 2568 มีรายได้รวม 2,008.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.2% โดยรายได้จากการขายและส่งออกไปเป็นเงินตราต่างประเทศมีมูลค่า 47.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.5% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน งบการเงินรวมมีกำไรสุทธิ 240.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.8% ขณะที่งบการเงินเฉพาะบริษัทมีกำไรสุทธิ 250 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.7% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน

"บริษัทฯยังคงมีสถานะสภาพคล่องที่ดีและโครงสร้างทุนที่มั่นคง โดยติดตามความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด รวมถึงประเด็นด้านนโยบายการค้าของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม การปรับเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ไม่มีผลกระทบที่มีนัยสำคัญต่อบริษัท เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2568 ยังคงเติบโตในอัตราที่เหมาะสม การผลิตภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นในหมวดเซมิคอนดักเตอร์ รวมถึงการผลิตยานยนต์ที่เพิ่มขึ้นตามยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า ด้านการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวตามการเบิกจ่ายลงทุน อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจโลกและความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวัง"

สำหรับธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ของบริษัทฯยังคงได้รับผลกระทบในระดับจำกัด เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ยังคงต้องการชิ้นส่วนรถยนต์ ในขณะที่จำนวนการผลิตโดยรวมลดลง ตลาดซ่อมบำรุง (REM-Replacement Equipment Market) ยังคงเติบโตดีโดยมีความต้องการชิ้นส่วน เพื่อการเปลี่ยนถ่ายในตลาดรอง ทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นฐานลูกค้าของบริษัท ขณะที่ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นโอกาสใหม่ในการขยายไลน์การผลิตชิ้นส่วนรองรับรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต

สำหรับบริษัท FPI AUTO PARTS INDIA PRIVATE LIMITED เริ่มมียอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญและกลับมามีผลกําไรสุทธิในไตรมาส 3 ปี2568 หลังจากไตรมาสก่อนหน้ามีผลขาดทุน การเพิ่มขึ้นของยอดขายในอัตราที่สูงเกิดจากการที่บริษัทมีโครงการในมือ (On-handProjects) มูลค่าประมาณ 443 ล้านบาท (มูลค่าประมาณ 1,200 ล้านรูปี) สําหรับช่วงปี2568–2570 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตที่วางไว้ และได้รับการยืนยันคําสั่งซื้อจากลูกค้า และได้เริ่มดําเนินการผลิตในช่วงเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ด้วยสายงานโครงการที่แข็งแกร่ง ความร่วมมือที่มั่นคงกับผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ และการดําเนินงานที่เน้นประสิทธิภาพเป็นหลัก บริษัทมีความพร้อมที่จะขยายรายได้อย่างมีนัยสําคัญ และสามารถสร้างผลประกอบการที่มั่นคงในไตรมาสต่อ ๆ ไปได้อย่างต่อเนื่อง


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment