{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

กรมทางหลวง เดินหน้าพัฒนาโครงข่ายคมนาคมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด โครงการก่อสร้างขยายทางหลวงหมายเลข 1074 สายบ้านคอปล้อง – บ้านบึงบ้าน ในพื้นที่อำเภอบึงสามัคคี จังหวัดกำแพงเพชร ระยะทาง 11.475 กิโลเมตร จากขนาด 2 ช่องจราจรเป็นขนาด 4 ช่องจราจร ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้ประชาชนใช้สัญจรอย่างเป็นทางการแล้ว เพื่อเพิ่มศักยภาพการเดินทางและขนส่ง รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวระหว่างจังหวัดกำแพงเพชรและจังหวัดพิจิตร

นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า กรมทางหลวงได้ดำเนินนโยบายพัฒนาโครงข่ายทางหลวงทั่วประเทศให้เชื่อมโยงกันอย่างสมบูรณ์ เพื่อรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน สอดคล้องตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ด้านโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ โดยทางหลวงหมายเลข 1074 ถือเป็นเส้นทางคมนาคมสายสำคัญที่เชื่อมโยงระหว่างอำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร (ทล.1) กับอำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร (ทล.117) ผ่านอำเภอบึงสามัคคี ซึ่งประชาชนนิยมใช้เป็นเส้นทางสัญจรและขนส่งสินค้าเกษตรกรรม รวมถึงเป็นเส้นทางสู่แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ด้วยเหตุนี้ กรมทางหลวง โดยสำนักก่อสร้างทางที่ 2 จึงได้ดำเนินโครงการก่อสร้างขยายทางหลวงสายดังกล่าว ระหว่าง กม.ที่ 30+175 ถึง กม.ที่ 41+650 รวมระยะทาง 11.475 กิโลเมตร เพื่อลดความหนาแน่นของการจราจรบนทางหลวงหมายเลข 117 และสนับสนุนการเดินทางระหว่างจังหวัดให้มีความคล่องตัว สะดวก และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น สำหรับลักษณะโครงการ เป็นการก่อสร้างขยายช่องจราจรจากเดิมขนาด 2 ช่องจราจร เป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษขนาด 4 ช่องจราจร (ไป-กลับ ข้างละ 2 ช่องจราจร) ผิวจราจรเป็นแบบพอร์ตแลนด์ซีเมนต์คอนกรีต มีความกว้างช่องจราจรละ 3.50 เมตร ไหล่ทางด้านนอกกว้าง 2.25 เมตร แบ่งทิศทางการจราจรด้วยเกาะกลางแบบยก (Raised Median) และแบริเออร์คอนกรีต (Concrete Barrier) เพื่อความปลอดภัยสูงสุด พร้อมทั้งติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างและไฟกระพริบตลอดแนวเส้นทาง และติดตั้งป้ายจราจรและสัญญาณเตือนต่างๆ ตามมาตรฐานด้านวิศวกรรมงานทาง วงเงินงบประมาณในการก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 516,982,493.52 บาท

โครงการนี้ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างครอบคลุม โดยช่วยให้การเดินทางโดยรวมมีความรวดเร็วขึ้น สามารถประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง พร้อมยกระดับความปลอดภัยและลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งโครงข่ายคมนาคมที่สะดวกและปลอดภัยนี้ ไม่เพียงแต่จะเพิ่มศักยภาพการขนส่งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่นและช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสาธารณะที่สำคัญ เช่น โรงพยาบาลและสถานศึกษา ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น


COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS