{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
รู้หรือไม่? มนุษย์เงินเดือนที่ไม่มีเงินออม ส่วนใหญ่ไม่ใช่เพราะรายได้น้อย แต่อาจเกิดจากนิสัยและไม่มีวินัยเรื่องเงิน หลายคนเงินเดือนออกปุ๊บ ซื้อของที่ "คิดว่าต้องมี" ทั้งที่จริง ๆ แค่ “อยากได้” พอรู้ตัวอีกที “ชีวิตติดหนี้” วันนี้ fintips by ttb #เรื่องเงินที่รู้จริงแบบเพื่อนที่รู้ใจ มีทางออกง่าย ๆ เริ่มได้ทันทีมาบอก คือ สำรวจตัวเองดูว่ามี 6 นิสัยที่ทำให้เป็นอุปสรรคในการออมเงินอยู่หรือไม่ พร้อมทั้งวิธีแก้ไขอย่างไรเพื่อพิชิตเงินล้าน
ลด - ละ - เลิก 6 นิสัย ที่จะทำให้คุณเก็บเงินไม่อยู่
หลายคนอาจคิดว่าเรื่องที่ทำจนชินกลายเป็นนิสัยแล้วแก้ไม่ได้ ซึ่งหากต้องการเปลี่ยนแปลงจริง ๆ เริ่มเลยตั้งแต่วันนี้! ลองเอาทฤษฎี 21 วัน ของ Dr. Maxwell Maltz มาใช้ แค่รักษาวินัยทางการเงินให้ครบ 21 วันก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงแน่นอน
1. เลิกใช้เงินก่อน แล้วออมทีหลัง : หากคุณเป็นหนึ่งในพนักงานเงินเดือน ที่พอเงินเข้าบัญชีปุ๊บ ก็โอนออกไปใช้จ่ายปั๊บ เหลือเท่าไรค่อยนำมาเป็นเงินเก็บ ให้ลองเปลี่ยนวิธีเป็นการออมเงินทันทีแล้วค่อยใช้ทีหลังแทน จะช่วยให้คุณออมเงินตามเป้าหมายได้ง่ายยิ่งขึ้น แนะนำว่าควรกำหนดจำนวนเงินที่ต้องการออมในแต่ละเดือนไว้ เพื่อสร้างความสม่ำเสมอ และทำจนเป็นนิสัย
2. เลิกตามกระแส : ปัจจุบันโซเชียลมีเดียเข้ามามีผลต่อนิสัยผู้คนเป็นอย่างมาก ก่อนซื้อคิดดี ๆ “ของมันต้องมี” หรืออยากได้ตามกระแส แค่เห็นเพื่อนในโลกออนไลน์อวดของสวย ๆ งาม ๆ ทำให้ต้องซื้อตามโดยไม่คำนึงถึงความเป็น จนบ่อยครั้งที่ต้องหมดเงินไปกับกระแสโซเชียล
3. เลิกก่อหนี้ โดยไม่จำเป็น : เพราะตามกระแสเป็นเหตุ ทำให้ต้องซื้อ “ของมันต้องมี” บ่อย ๆ หนึ่งในปัญหาที่มนุษย์เงินเดือนจะเจอก็คือ หนี้บัตรเครดิต รูดไปก่อน แล้วค่อยจ่ายทีหลัง แต่เอาเข้าจริงไม่มีให้จ่าย ใช้เงินแบบเดือนชนเดือน เกิดปัญหาการเงินไม่รู้จบ เพื่อตัดปัญหาเหล่านี้ ควรเลิกก่อหนี้โดยไม่จำเป็น และรู้จักบริหารเงินอย่างชาญฉลาด เช่น รูดบัตรเครดิตในจำนวนเงินที่ผ่านไหว, ไม่ใช้จ่ายเกินตัว เป็นต้น
สามารถเลือกใช้บัตรเครดิตดี ๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้จ่ายของมนุษย์เงินเดือนได้มากยิ่งขึ้น เช่น บัตรเครดิต ttb ที่มีบริการ ttb so goood แบ่งชำระ 0% นาน 3 เดือน ทุกยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ttb ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป ต่อเซลล์สลิป ทำได้ทันทีบนแอป ttb touch คลิก รายละเอียดเพิ่มเติม
4. เลิกใช้เงินแบบไม่วางแผนอนาคต : หลายคนประสบปัญหาเงินไม่พอใช้ถึงสิ้นเดือน อาจเป็นเพราะไม่ได้วางแผนการเงิน หรือวางแผนไม่ดีพอ จึงทำให้เหลือเงินไม่พอต่อการใช้จ่าย เราสามารถแก้ปัญหานี้ได้ เพียงเริ่มทำรายการสรุปค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน จดบันทึกค่าใช้จ่ายรายวัน รายสัปดาห์ รวมถึงการทำงบการเงินล่วงหน้าเพื่อประเมินรายรับ - รายจ่ายที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยให้บริหารเงินได้ดียิ่งขึ้น
5. เลิกลงทุนโดยไม่ศึกษาให้รอบคอบ : ทุกคนล้วนใฝ่ฝันที่อยากจะมี Passive Income จึงมักนำเงินเก็บไปลงทุนเพื่อสร้างรายรับ แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยเลย ที่ต้องสูญเงินไปเพราะไม่ศึกษาการลงทุนให้ดีเสียก่อน ท่องให้ขึ้นใจการลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้น ไม่ว่าจะลงทุนอะไร จึงควรศึกษาให้ละเอียดด้วยตัวเอง ทำความเข้าใจ พร้อมทั้งศึกษารายละเอียดเงื่อนไขต่าง ๆ วางแผนการลงทุนให้รอบด้าน หากต้องการคำแนะนำ ก็ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
6. เลิกเก็บเงินบัญชีเดียว : การมีบัญชีออมเงิน และบัญชีสำหรับใช้จ่ายเป็นบัญชีเดียวกัน อาจทำให้เผลอใช้เงินเก็บไปโดยไม่รู้ตัวได้ ดังนั้น จึงควรแยกบัญชีเงินออม และเงินสำหรับใช้จ่ายออกจากกัน รวมถึงควรแยกบัญชีตามจุดประสงค์ในการออมเงิน เพื่อไม่ให้หลงลืมดึงเงินมาใช้ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย เช่น แบ่งเงินเป็น 3 ส่วน คือ 1.สำหรับใช้จ่าย 2.สำหรับออมเพื่อลงทุน และ 3.สำหรับออมไว้ใช้ยามฉุกเฉิน เป็นต้น
3 ป. พิชิตเงินล้าน ฉบับมนุษย์เงินเดือน
นอกจากเลิก 6 นิสัยที่เป็นภัยต่อการออมเงินแล้ว สำหรับใครที่ฝันไกลอยากไปให้ถึงเงินล้าน วันนี้มีเคล็ดลับฉบับมนุษย์เงินเดือนในการพิชิตเงินล้านมาฝาก เพียงแค่ท่องและทำ “3 ป” ให้ขึ้นใจ รับรองเป้าหมายอยู่ใกล้แค่เอื้อม
1. ป้องกันความเสี่ยง : เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน การมีเงินทุนสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉิน เป็นหนึ่งสิ่งสำคัญในการป้องกันความเสี่ยงด้านการเงิน โดยควรมีเงินสำรองฉุกเฉินไว้ใช้อย่างน้อย 6-12 เดือน เผื่อไว้ในกรณีขาดรายได้ หรือเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น หากมีรายรับ 25,000 บาทต่อเดือน และมีรายจ่ายรวมต่อเดือน 14,000 บาท ดังนั้น ควรมีเงินสำรองฉุกเฉิน 84,000 – 168,000 บาท (6-12 เท่าของรายจ่ายต่อเดือน) และอีกหนึ่งสิ่งที่คนมักมองข้ามในการป้องกันความเสี่ยงทางเงินก็คือ การซื้อประกันสุขภาพ เพราะเมื่อเจ็บป่วยขึ้นมากะทันหันจะช่วยประหยัดเงินก้อนไปได้อีกเยอะ
2. ปลอดหนี้ : เลิกก่อหนี้โดยไม่จำเป็น หรือเกินกำลัง เมื่อคุณเลิกก่อหนี้ และตามปิดหนี้ได้แล้ว สิ่งที่ควรรักษาไว้ให้ได้คือสภาวะ “ปลอดหนี้” เพื่ออนาคตทางการเงินที่มั่นคงของคุณเอง เช่น ก่อนรูดบัตรเครดิตซื้อของ ควรศึกษาเงื่อนไขและโปรโมชันให้ดีก่อน
3. เปลี่ยนเงินออมให้งอกเงย : หากแบ่งเงิน เดือนละประมาณ 5,000 บาท เพื่อออม หรือลงทุน มาดูกันว่าจะพิชิตเงินล้านได้ในกี่ปี
• หากฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ เดือนละ 5,000 บาท ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% ต้องใช้เวลาถึง 17 ปี ถึงจะพิชิตเงินล้านแรกได้
• หากลงทุนใน ttb smart port คุณจะมีเงิน 1 ล้านบาทแรก ภายใน 13 ปี (ด้วยการลงทุนในระดับความเสี่ยงด้านการลงทุน +/- 4% หรือมากกว่า) เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ttb smart port คลิก https://www.ttbbank.com/tsp
หมายเหตุ: เป็นการคำนวณเบื้องต้นเท่านั้น การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ควรศึกษาให้ดีก่อนเลือกลงทุน
จากการได้สำรวจตัวเองทั้ง 6 ข้อ มีกี่นิสัยบ้างที่เป็นอุปสรรคต่อการออมเงินของคุณ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะสามารถปรับเปลี่ยนนิสัยเหล่านี้ได้ เพียงลงมือทำอย่างจริงจัง มาเปลี่ยนเพื่อพิชิตเงินล้าน หันมาสร้างการเงินที่ดีขึ้นตั้งแต่วันนี้กันเถอะ
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS