ดัชนีRSIยังทรง

ดัชนี RSI เดือนก.พ.63 ชี้ผลสำรวจแนวโน้มอนาคตเศรษฐกิจไทยที่ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า แต่ยังควรติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ว่า “การประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดล่าสุด จากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค (คาดการณ์ 6 เดือนข้างหน้า) ชี้ผลสำรวจแนวโน้มอนาคตเศรษฐกิจไทยทึ่ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ควรติดตามสถานการณ์ภาคเกษตรของภาคกลาง และสถานการณ์ภาคการท่องเที่ยวของภาคใต้และภาคตะวันออกจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease: COVID-19)”

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่ระดับ 60.4 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะภาคเกษตรและภาคการบริการ เนื่องจากมีนโยบายจากภาครัฐในการขับเคลื่อนและสนับสนุนภาคเกษตรในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่อง และมีนโยบายรัฐบาลที่มีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศส่งผลให้กิจการด้านการบริการขยายตัวสูงขึ้น สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออก อยู่ที่ระดับ 60.4 สะท้อนถึงการคาดการณ์การปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมและภาคการจ้างงาน เนื่องจากนักลงทุนมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น และมีการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในเขตพื้นที่ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ และอีก 6 เดือนข้างหน้าจะเข้าช่วงฤดูกาลของผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน มังคุด ซึ่งส่งผลให้มีความต้องการใช้แรงงานในภาคเกษตรกรรมอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นฤดูกาลที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นปัจจัยทางบวกทำให้มีการขยายตัวของภาคบริการ ส่งผลให้มีความต้องการแรงงานสูง อย่างไรก็ดี ควรติดตามสถานการณ์ภัยแล้งที่ยังมีผลต่อแนวโน้มภาคเกษตรในภาคตะวันออก และสถานการณ์ภาคการท่องเที่ยวจากผลกระทบการแพร่ระบาดของ COVID-19

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคเหนืออยู่ที่ 53.2 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ทรงตัว ขณะที่ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก เนื่องจากเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตรหลายชนิด และเข้าสู่ฤดูการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจหลัก และมีจำนวนโรงงานที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการมากขึ้น อย่างไรก็ดี ควรติดตามสถานการณ์หมอกควันในจังหวัดภาคเหนือ รวมถึงเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนและฤดูฝนที่อาจส่งผลต่อการท่องเที่ยวในภาคเหนือ สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้อยู่ที่ 53.1 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะได้รับแรงสนับสนุนในภาคการเกษตรและภาคการจ้างงาน ซึ่งเป็นผลจากนโยบายกระตุ้นความต้องการใช้ยางพาราของภาครัฐ เพื่อยกระดับราคายางพาราโดยการใช้ยางพาราในการทำถนน และสินค้าแปรรูป อาทิ ถุงมือ หมอน และรองเท้า เป็นต้น ขณะเดียวกันความต้องการใช้ปาล์มน้ำมันในประเทศยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ภายใต้นโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B10 และ B20 ส่งผลให้ราคาปาล์มน้ำมันในประเทศมีความสมดุลในระยะยาว สอดรับกับอุตสาหกรรมสกัดน้ำมันปาล์มดิบที่คาดว่าใน 3-4 เดือนข้างหน้าจะมีผลปาล์มน้ำมันออกสู่ตลาดในปริมาณมาก อย่างไรก็ดี ควรติดตามสถานการณ์ภาคการท่องเที่ยวจากผลกระทบการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของ กทม. และปริมณฑล อยู่ที่ระดับ 53.1 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่เพิ่มขึ้น โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก เนื่องจากมีการพัฒนาสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพสูงขึ้น และผลจากมาตรการส่งเสริมการลงทุนของผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม อย่างไรก็ดี ควรติดตามสถานการณ์การจ้างงานและการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมของ กทม. และปริมณฑล สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตก อยู่ที่ระดับ 51.9 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า แต่คาดว่าจะมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมเนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนจากการดำเนินนโยบายด้านการเกษตรที่ต่อเนื่อง ทั้งการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การส่งเสริมการรวมกลุ่ม การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการผลิตและยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตร นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีนโยบายสนับสนุนให้ภาคเอกชนมีการลงทุนเพิ่มขึ้น ตลอดจนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ส่งผลให้การผลิตในภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการมีการจ้างงานและการลงทุนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ควรติดตามสถานการณ์ภาคการจ้างงานและการลงทุนในหลายจังหวัดที่มีแนวโน้มหดตัวลง สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคกลาง ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 50.5 โดยควรติดตามสถานการณ์ภาคเกษตรของภาคกลาง โดยเฉพาะปัญหาภัยแล้งในหลายจังหวัด


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment