NAM ชู 4 ยุทธศาสตร์ ปักธงไทยสู่ฮับเครื่องมือแพทย์ตลาดอาเซียน

บมจ.นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น (NAM) เปิด 4 ยุทธศาสตร์หลัก หนุนรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 50% เร่งขยายไลน์ธุรกิจเข้าสู่กลุ่มเครื่องมือแพทย์ชั้นสูง มุ่งสร้างความร่วมมือบริษัทชั้นนำระดับโลก วิจัย พัฒนา เทคโนโลยีใหม่ๆ พร้อมตั้งเป้าผลักดันไทยเป็นฐานใหญ่ เพื่อส่งออกและกระจายสินค้าสู่ตลาดอาเซียน

นายวิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) (NAM) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้ารุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์หลัก 4 ด้าน เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยมีเป้าหมายขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศและต่อยอดไปยังตลาดภูมิภาคอาเซียน พร้อมคาดการณ์รายได้รวมปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 50% เทียบปีก่อน

สำหรับ 4 ยุทธศาสตร์สำคัญของ NAM ประกอบด้วย 1.การขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค โดยมุ่งเน้นการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจและตัวแทนจำหน่ายเชิงกลยุทธ์ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายในวงกว้าง 2.การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ครอบคลุมตั้งแต่การวิจัย พัฒนา การผลิต ไปจนถึงบริการหลังการขาย เพื่อรักษามาตรฐานคุณภาพระดับสากล 3.การลงทุนด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ สำหรับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย และ 4.การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ด้วยแนวคิด “Clean to Green” ส่งเสริมกระบวนการผลิตและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

“แนวโน้มการเติบโตของ NAM ยังคงแข็งแกร่ง สอดรับกับกลยุทธ์การขยายไลน์ธุรกิจเข้าสู่กลุ่มเครื่องมือแพทย์ชั้นสูง ซึ่งมีแนวโน้มความต้องการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งในและต่างประเทศ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการเร่งเจรจาความร่วมมือกับพันธมิตรบริษัทชั้นนำระดับโลก เพื่อร่วมกันวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ โดยวางยุทธศาสตร์ให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลัก เพื่อรองรับการส่งออก และกระจายสินค้าสู่ตลาดภูมิภาคอาเซียนในอนาคต” นายวิโรจน์ กล่าว

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก คาดว่าจะเติบโตได้ตามที่คาดการณ์ไว้ จากการขยายตัวของตลาดอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น จากปัจจัยสนับสนุนด้านโครงสร้างประชากรที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และความตื่นตัวด้านสุขอนามัยที่ยังคงสูง รวมถึงความต้องการในกลุ่มเครื่องมือแพทย์เฉพาะทางที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอุปกรณ์ฆ่าเชื้อและผลิตภัณฑ์สิ้นเปลืองทางการแพทย์ซึ่งเป็นสินค้าหลักของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเริ่มรับรู้รายได้จากบริษัทย่อยที่ลงทุนในช่วงปลายปี 2567 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2568 ส่งผลให้มีแนวโน้มรายได้เพิ่มขึ้นตามแผนการขยายธุรกิจอีกด้วย


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment