ดั๊บเบิ้ล เอ - บีไอจี นำนวัตกรรมออกซิเจนคาร์บอนต่ำมาใช้เป็นรายแรกของอุตสาหกรรมกระดาษ สู่ Net Zero

บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการผลิตเยื่อและกระดาษ ที่มีการส่งออกไปแล้วกว่า 145 ประเทศทั่วโลก ประกาศความสำเร็จในการนำออกซิเจนคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon Oxygen) จาก บีไอจี ผู้นำนวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อสภาพภูมิอากาศ (Climate Technology Company) มาใช้ในกระบวนการผลิตเยื่อกระดาษเป็นรายแรกของอุตสาหกรรมกระดาษในไทย เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนสู่เป้าหมาย Net Zero ให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์กระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ผลิตขึ้นมาโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม

โดยออกซิเจนคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon Oxygen) จากบีไอจี เป็นนวัตกรรมที่มาจากกระบวนการแยกอากาศที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เมื่อเทียบกับกระบวนการผลิตทั่วไป ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของทั้งสองบริษัทที่มุ่งมั่นลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า นับเป็นมิติใหม่ของอุตสาหกรรมกระดาษ ที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ร่วมกับบีไอจี ในการนำออกซิเจนคาร์บอนต่ำ(Low-Carbon Oxygen) ซึ่งเป็นนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมมาใช้ในกระบวนการผลิตเยื่อกระดาษที่มีส่วนสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สอดคล้องกับนโยบายการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของดั๊บเบิ้ล เอ ซึ่งนอกจากการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงจนเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภคทั่วโลกแล้ว ยังมุ่งมั่นการดูแลใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยเฉพาะการก้าวไปสู่เป้าหมาย Net Zero ด้วยการนำก๊าซ Low-Carbon Oxygen มาใช้เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากซัพพลายเชน นอกจากนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ พร้อมสนับสนุนให้ประเทศไทยมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) โดยในปี ค.ศ. 2023 ดั๊บเบิ้ล เอ ได้บรรลุความสำเร็จในเป้าหมายระยะสั้นไปได้เร็วกว่าและดีกว่าที่ตั้งไว้อย่างมาก โดยสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 48% จากปีฐานที่ประเมินไว้ และเป้าหมายต่อไปที่ท้าทายคือการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2040 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี ค.ศ. 2050 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายของประเทศที่กำหนดไว้ในปี ค.ศ. 2065

เราเชื่อมั่นว่าการร่วมมือกับบีไอจีในครั้งนี้ จะเป็นต้นแบบที่ดีให้กับอุตสาหกรรมกระดาษไทยในการหันมาใช้พลังงานสะอาดและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ตอกย้ำการเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำ ทั้งยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจไทยบนเวทีการค้าโลก ร่วมสร้างการเติบโตในทุกมิติบนสังคมสีเขียวอย่างยั่งยืน

คุณปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บีไอจี กล่าวเสริมว่า บีไอจีเดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่ความยั่งยืน โดยผลิตภัณฑ์ก๊าซของบีไอจีได้รับการรับรองจาก อบก. ว่ากระบวนการผลิตก๊าซของบีไอจีลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้มั่นใจได้ว่าก๊าซอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำจากบีไอจีไม่ว่าจะเป็นออกซิเจน ไนโตรเจน หรือไฮโดรเจน เป็นต้น จะมีส่วนช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมให้กับโรงงานที่เลือกใช้ รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลก ซึ่งการที่ดั๊บเบิ้ล เอ นำร่องอุตสาหกรรมกระดาษไทยในการใช้ออกซิเจนคาร์บอนต่ำจากบีไอจีสะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกมิติของดั๊บเบิ้ล เอ และเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของบีไอจีในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ภาคอุตสาหกรรมไทยตามกลยุทธ์ Generating a Cleaner Future นอกจากการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว การใช้ผลิตภัณฑ์ก๊าซอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำของบีไอจียังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดต้นทุน และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับผลิตภัณฑ์ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น