SINO คาด Q3 เติบโตโดดเด่น ยังมั่นใจปริมาณขนส่งสินค้าระหว่างประเทศปี 67 แตะ 5.3 หมื่นตู้

บมจ.ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SINO ประเมินแนวโน้มผลงานไตรมาส 3/2567 เติบโตโดดเด่นจากไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลทำรายได้ 8 เดือนแรกสูงกว่าเป้าหมายรายได้ทั้งปีแล้ว มั่นใจปริมาณขนส่งสินค้าปี 2567 แตะ 5.3 หมื่นตู้ตามแผน

นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมเศรษฐกิจโลกปัจจุบันมีทิศทางชะลอตัว อย่างไรก็ตามจากการวางแผนขยายธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เพิ่มศักยภาพบริหารต้นทุน ตลอดจนการปรับกลยุทธ์ดำเนินธุรกิจให้บริการเช่าพื้นที่คลังสินค้า ได้ส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 ที่รายได้มีแนวโน้มเติบโตกว่าไตรมาสก่อนหน้า แม้ปริมาณการขนส่งอาจลดลงเล็กน้อย ขณะที่ภาพรวมการดำเนินงาน 8 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค. – ส.ค.2567) เติบโตอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน โดยทำรายได้สูงกว่าเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้เกือบ 2,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อนแล้ว และมั่นใจว่าจะสามารถขยายปริมาณการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเป็น 53,000 ตู้ เพิ่มขึ้นกว่า 15% จาก 46,000 ตู้ในปี 2566

แนวโน้มรายได้ที่ดีในไตรมาส 3/2567 และช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ มาจากการการขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน โดยบริษัทฯ ได้ร่วมทุนจัดตั้งสำนักงานในประเทศมาเลเซียและเปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อย ซึ่ง SINO ถือหุ้น 51% เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจจากการขยายเส้นทางให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเลจากมาเลเซีย – สหรัฐอเมริกา ปัจจุบันมีผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจและเริ่มรับรู้รายได้มายังบริษัทฯ บ้างแล้ว โดยมีปริมาณขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเล

แบบ FOB ไปยังสหรัฐฯ เฉลี่ยเดือนละ 150 – 200 ตู้ และอยู่ระหว่างขยายบริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเล

แบบ CIF ไปยังภูมิภาคอื่นๆ เช่น ยุโรป และเอเชีย

ขณะที่ธุรกิจให้บริการเช่าพื้นที่คลังสินค้าในพื้นที่แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี หลังจากปรับกลยุทธ์เพื่อขยายฐานลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพบริหารต้นทุน ส่งผลให้อัตราการเช่าพื้นที่คลังสินค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 90% ของพื้นที่คลังสินค้าทั้งหมดประมาณ 20,000 ตารางเมตร และได้เพิ่มหัวลากอีก 5 หัวแก่รถขนส่งของบริษัท อินเตอร์คอนเนคชั่นส์ โลจิสติกส์ จำกัด (ICL) ในเครือ SINO ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถขยายฐานลูกค้าและบริหารต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับผลบวกจากค่าระวางเรือที่เพิ่มขึ้นในช่วงต้นไตรมาส 3/2567 จากความต้องการเร่งขนส่งรถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) จากจีนไปยังสหรัฐฯ ก่อนเริ่มปรับขึ้นอัตราภาษี อย่างไรก็ตามแม้ว่าค่าระวางเรือในปัจจุบันทยอยปรับลดลง แต่บริษัทฯ ประเมินว่ามีแนวโน้มที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งในไตรมาส 4/2567 เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ ซึ่งหลายประเทศจะนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในช่วงเทศกาลปลายปี


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment