CMO มั่นใจครึ่งปีหลังสดใส ปั้นธุรกิจกลุ่ม Own Project เพิ่มรายได้

“ซีเอ็มโอ” (CMO) ส่งซิกครึ่งปีหลังภาพรวมตลาดอีเวนต์คึกคัก พร้อมโชว์มีงานรอรับรู้รายได้มูลค่า 755 ล้านบาท พร้อมเปิดกลยุทธ์ครีเอทงาน Own-Project สร้างรายได้เพิ่ม แถมลุ้นประมูลงานเพิ่มอีกหลายโครงงาน มั่นใจรายได้สิ้นปีเข้าเป้า 1.2 – 1.5 พันล้านบาท

นายมงคล ศีลธรรมพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO เปิดเผยถึง ผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2567 (มกราคม-มีนาคม 2567) ว่ากลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 263.89 ล้านบาท ลดลง 51.34 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้ 315.22 ล้านบาท ขณะที่ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 49.23 ล้านบาท ลดลง 31.29 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทฯ มีขาดทุนสุทธิ 80.52 ล้านบาท ทั้งนี้ รายได้ในไตรมาสแรกของปีนี้ ถือเป็นอัตราการเติบโตที่เป็นไปตามสภาพตลาดของธุรกิจอีเวนต์ ซึ่งหากนำไปเปรียบเทียบกับรายได้ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จะเห็นว่าลดลง เนื่องจากปีก่อนมีการรับรู้รายได้จากงานในกลุ่มบริษัทย่อยที่ลงทุนในธุรกิจด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ประเภทจัดงานคอนเสิร์ต ซึ่งถือเป็นส่วนที่ทำให้บริษัทฯ ขาดทุน

“อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจริงๆ แล้ว ยอดขาดทุนสุทธิในไตรมาสแรกของปีนี้ มาจากบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียว (One-Time Expenses) เป็นจำนวน 26.63 ล้านบาท โดยเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับใช้ดำเนินการเรื่องคดีความหรือข้อพิพาททางกฎหมายของบริษัทฯ และบริษัทย่อย, ค่าทนายความ ตลอดจนเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) ทั้งนี้ หากไม่รวมผลกระทบที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวนี้ บริษัทฯ จะมีผลขาดทุนสุทธิ 22.22 ล้านบาท ถือว่าลดลงอย่างมากจากงวดเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเปรียบเทียบย้อนหลังไปในช่วงก่อนหน้านี้ ก็ถือว่ากลับเข้าสู่ภาวะปกติของบริษัทฯ แล้ว นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้รับงานประเภทพิพิธภัณฑ์ที่เป็นโครงการระยะยาว ซึ่งมีต้นทุนในการดำเนินงานแล้ว แต่อยู่ระหว่างทยอยรับรู้รายได้ภายในไตรมาสถัดไป ทั้งนี้ ด้วยกลยุทธ์การปรับโครงสร้างการบริหารงานในส่วนต่างๆ ทำให้ปีนี้มีแนวโน้มเป็นปีแห่งการฟื้นตัวของ CMO” นายมงคล กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่สายงานพัฒนาธุรกิจ บมจ.ซีเอ็มโอ กล่าวอีกว่า สำหรับทิศทางผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 และครึ่งปีหลัง มีสัญญาณการเติบโตดีต่อเนื่องจากภาวะตลาดที่ยังมีการเติบโต โดยภาพรวมตลาดอีเวนต์ มูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 14,000-15,000 ล้านบาท การเติบโตมาจากภาคเอกชนเป็นหลัก และอีกส่วนมาจากภาครัฐที่มีนโยบายผลักดัน “Soft Power” ส่งผลให้แบรนด์ต่างๆ หันมาให้ความสำคัญทุ่มงบประมาณสำหรับงานอีเวนต์มากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากปริมาณการจัดงานที่เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานอีเวนต์การตลาด การจัดประชุมนานาชาติ ตลอดจนงานในกลุ่ม Entertainment

ในส่วนของ CMO โครงสร้างรายได้หลักมาจากการจัดงานอีเวนต์ และธุรกิจซัพพลายอุปกรณ์ระบบภาพแสงเสียง ซึ่งบริษัทฯ มีกลุ่มลูกค้าครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจยานยนต์, กลุ่มธุรกิจเครื่องสำอางและความงาม, กลุ่มธุรกิจการเงินการธนาคาร รวมไปถึงกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นต้น โดยในช่วงครึ่งปีแรกมีผลงานที่น่าสนใจ อาทิเช่น จัดงานเปิดคอลเลคชั่นใหม่ของแบรนด์ GENTLEWOMAN, งาน Lancôme Idole House เปิดตัวน้ำหอมใหม่, Miss Dior Parfum Pop up, งานสถาปนิกสยาม 67, งาน Makro “ตลาดนัดโชห่วย”, งานเทศกาลดนตรี Major Movie on the Beach ครั้งที่ 9, งานเปิดแฟลกชิปสโตร์ "POP MART Hello Central Ladprao", งานพาวิลเลี่ยนของธนาคารกรุงเทพ ในงาน Money Expo, นิทรรศการชุดใหม่ Elextrosphere โลกใหม่ Right Carbon ของศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง ตลอดจนไปบริหารจัดการพาวิลเลี่ยนของ ปตท.สผ.ที่ไปร่วมจัดแสดงนวัตกรรมในต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศซาอุดิอาระเบีย และประเทศมาเลเซีย เป็นต้น


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment