MTW เข้าตา โบรกฯ มองปี 67 เติบโตแบบ New S-Curve

ส่องหุ้นมีแววผลงานโตกระฉูด ! แถมได้รับปัจจัยบวกจาก EV อย่าง บริษัท เมคทูวิน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTW บริหารงานโดย "กฤตเมธ ตั้งพิชญโพธิวัฒน์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออกมาประกาศความแข็งแกร่งของธุรกิจจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เป็นพระเอกในการส่งกำไรให้บริษัทฯ เติบโตกว่า 2 เท่าในปีก่อน และคาดปี 67 เดินหน้า All Time High วางเป้ารายได้โตอีก 100% จากปี 66 มีรายได้อยู่ที่ 527 ลบ. แย้มปัจจัยบวกสนับสนุนเพียบ ทั้งความพร้อมของโรงงานใหม่และกำลังการผลิต - เตรียมเปิดรับตัวแทนจำหน่ายเพิ่ม - ออเดอร์ในมือแน่น - ต้นทุนลด - นโยบายภาครัฐหนุน - ธุรกิจ EV เทรนด์แแห่งโลกอนาคต โบรกฯ มองเป็นหุ้นที่สร้างฐานการเติบโตแบบ New S-Curve ต่อเนื่อง

ด้านบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุ บริษัทฯ มี New S-Curve จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เราคาดว่าปี 2023 เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ New S-Curve ของรายได้และกำไร จากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ Deco ซึ่งบริษัทได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในหลายช่องทาง ได้แก่ 1) เงินอุดหนุน 2) ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ 3) ได้รับการยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับ การนำเข้าชิ้นส่วน ประกอบกับ Deco เป็นผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนเจ้าแรกในไทยและเป็นเจ้าแรกที่ได้เข้าร่วมนโยบาย EV3.0 ส่งผลให้มียอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง

สำหรับมุมมองแนวโน้ม EV โตต่อ รัฐบาลผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิต EV แห่งภูมิภาคเอเชีย โดยตั้งเป้าให้มีรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมด ภายในปี 2030 ทำให้เราเชื่อว่ารัฐบาลจะส่งเสริมและออกมาตรการต่อเนื่องจนถึง ปี 2030 โดยปี 2023 มียอดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนคิดเป็น 1.16% ของรถจักรยานยนต์ทั้งหมด

ทั้งนี้ ปี 2566 MTW มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ต่อเนื่องเป็น 89% ของรายได้ทั้งหมด จาก 63% ในปี 2022 ขณะที่เราคาดว่าปี 2024F จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 94% เนื่องจากมีการย้ายฐานการผลิตในช่วง ไตรมาส 3/23 ส่งผลให้มีกำลังผลิตเพิ่มจากเดิม 10 เท่า และบริษัทเริ่มกลับมาเปิดรับตัวแทนจำหน่ายเพิ่มหลังจากหยุดรับคำสั่งซื้อตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2022 จากกำลังการผลิตไม่เพียงพอ

อย่างไรก็ดี กำไรดีต่อเนื่อง เราคาดอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิปี 2024 ที่ 82% yoy อยู่ที่ 98 ล้านบาท จากการเปิดรับตัวแทนจำหน่าย ส่งผลให้ยอดขายที่เร่งตัวขึ้น หลังมีการเพิ่มกำลังการผลิต และคาดว่าต้นทุนการผลิตลดลงจากการได้รับยกเว้นภาษีนำเข้า ของชิ้นส่วนและยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ขณะที่สัดส่วนค่าใช้จ่ายและบริหาร ต่อรายได้ก็ลดลงอย่างมีนัยยะ จาก 16% ในปี 2022 เป็น 11% ในปี 2023 และ คาดจะลดลงต่อเนื่องเป็น 9.5% ในปี 2024F จากการเติบโตรายได้เท่าตัว yoy ปัจจัยดังกล่าวจะช่วยหนุนการเติบโตของกำไร และทำให้ราคาหุ้นได้รับการประเมินมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment