บขส. ประชุมรับมือช่วงสงกรานต์ ปี 2567 คาดคนเดินทางไม่ต่ำกว่า 70,000 คน/วัน

บขส. ประชุมแผนเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2567 คาดมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาไม่ต่ำกว่า 70,000 คน/วัน จัดรถโดยสารรองรับกว่า 4,200 เที่ยว พร้อมเตรียมนำรถโดยสาร เส้นทาง “เหนือ-อีสาน ทุกมาตรฐาน” เฉพาะ รถโดยสาร บขส. ที่ผู้โดยสารจองตั๋วล่วงหน้าเดินทางในวันที่ 9-11 เม.ย.67 ตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.00 น. ไปออกที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (ประตู 2)

นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) มอบหมายให้นางสาวระพิพรรณ วรรณพินทุ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารการเดินรถ เป็นประธานการประชุมแผนปฏิบัติการเดินรถ วันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ปี 2567 โดยนางสาวระพิพรรณ กล่าวว่า บขส.ได้จัดการประชุมฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชน ตามข้อสั่งการของนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ได้กำชับให้ บขส. จัดการเดินรถให้เพียงพอ ไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง และประชาชนได้รับความสะดวก ปลอดภัย ตลอดการเดินทาง

โดยในเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ มีวันหยุดติดต่อกัน 5 วัน บขส.คาดการณ์ว่าจะมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นจากเทศกาลสงกรานต์ 2566 ประมาณ 10% โดยในเที่ยวไป ระหว่างวันที่ 9 - 11 เมษายน 2567 คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ยวันละ 70,000 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) เฉลี่ยวันละ 4,200 เที่ยว ส่วนเที่ยวกลับระหว่างวันที่ 15 – 17 เมษายน 2567 คาดว่ามีผู้โดยสารเดินทาง เฉลี่ยวันละ 66,000 คน ใช้รถโดยสารประมาณ 4,000 เที่ยว และได้ประสานขออนุญาตกรมการขนส่งทางบก ให้ผู้ประกอบการนำรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถ 30) มาวิ่งเสริมในเส้นทางต่างๆ ประมาณ 900 คัน

สำหรับการจองตั๋วโดยสารล่วงหน้า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2567 ระหว่างวันที่ 9 – 11 เมษายน 2567 ผู้โดยสารยังสามารถจองตั๋ว บขส. ผ่านช่องทางต่าง ๆ อาทิ Application : E-ticket และ Website บขส. : https://tcl99web.transport.co.th และช่องจำหน่ายตั๋วของ บขส. ทั่วประเทศได้ โดยขณะนี้ยอดจองตั๋วล่วงหน้าอยู่ที่ประมาณร้อยละ 50

บขส. ได้ขอใช้พื้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (ประตู 2) โดยรถโดยสารของ บขส. จะไปจอดรับผู้โดยสารที่จองตั๋วล่วงหน้าเส้นทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก ทุกมาตรฐาน ตั้งแต่เที่ยวเวลา 18.00 – 22.00 น. ของการเดินทางในวันที่ 9 – 11 เมษายน 2567 โดยผู้โดยสารสามารถเดินทางมายังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่อขึ้นรถ บขส. ได้ทั้งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและรถไฟฟ้าสายสีแดง รถเมล์ ขสมก. และรถแท็กซี่ เพื่อการเดินทางที่ไร้รอยต่อและลดความแออัดภายในสถานีขนส่งฯ สำหรับผู้โดยสารที่จองตั๋วล่วงหน้าทุกเส้นทาง ตั้งแต่เที่ยวเวลา 05.00 – 18.00 น. และผู้โดยสารที่ไม่ได้จองตั๋วโดยสารล่วงหน้าทุกเส้นทาง ให้ติดต่อซื้อตั๋วโดยสาร และขึ้นรถเที่ยวเสริม ได้ที่สถานีขนส่งฯ หมอชิต 2

บขส. ได้จัดรถ Shuttle Bus ให้บริการรับ-ส่งฟรี จากสถานีขนส่งฯ หมอชิต 2 ไปยังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ในกรณีที่มีผู้โดยสารมาขึ้นรถไม่ตรงจุดกำหนด และขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมาขึ้นรถโดยสารก่อนเวลารถออกอย่างน้อย 1 ชั่วโมง และขอให้ซื้อตั๋วที่ช่องจำหน่ายตั๋วเท่านั้น รวมทั้งให้ตรวจสอบข้อมูลในตั๋วโดยสาร เช่น เส้นทาง, เวลารถออก, จุดขึ้นรถทุกครั้ง นอกจากนี้ได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการรถร่วมฯ ติดป้ายแสดงราคาค่าโดยสารที่หน้าช่องขายตั๋วให้ชัดเจน โดยเฉพาะราคารถเสริมเพื่อแจ้งให้ผู้โดยสารทราบและป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาค่าโดยสาร

นางสาวระพิพรรณ กล่าวอีกว่า บขส. ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ “ไปก่อน - กลับทีหลัง” มอบส่วนลดค่าโดยสาร 20% (ไม่รวมค่าธรรมเนียม) ให้กับผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วโดยสาร ผ่านช่องทางออนไลน์ Application : E-Ticket เดินทางระหว่างวันที่ 1 - 4 และ 19 - 22 เมษายน 2567 ทุกเส้นทางภายในประเทศ เพื่อสนับสนุนนโยบายของกระทรวงคมนาคม ในการลดความแออัดในการเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลดังกล่าว และสำหรับลูกค้าสมาชิก บขส.Card เมื่อจองตั๋วโดยสารผ่านช่องทางออนไลน์ จะได้รับส่วนลดค่าโดยสาร 5% (ไม่รวมค่าธรรมเนียม) พร้อมรับสิทธิ์สะสมคะแนน เพื่อนำมาแลกของสมนาคุณ (ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด)

สำหรับเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ บขส. ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงพื้นที่ในสถานีขนส่งฯ หมอชิต 2 ให้พร้อมรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเวลาดังกล่าว รวมทั้งได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ การรถไฟแห่งประเทศไทย, องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.), กรมการขนส่งทางบก, กองบังคับการตำรวจจราจร สน.บางซื่อ สน.ตลิ่งชัน และ สน.ทองหล่อ ในการสนับสนุนพื้นที่ จัดรถเมล์ ขสมก. รถแท็กซี่ และเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัยและการจราจรโดยรอบสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ ทั้ง 5 แห่ง

นอกจากนี้ได้เน้นย้ำให้ บขส. และผู้ประกอบการรถร่วมฯ เตรียมความพร้อมก่อนการเดินทาง โดยตรวจเช็ครถโดยสารให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ควบคุมความเร็วบนรถโดยสาร ไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง จัดพนักงานขับรถ 2 คน ในเส้นทางสายยาวที่ใช้เวลาเดินทางเกิน 6 ชั่วโมง และพนักงานขับรถต้องได้รับการตรวจสภาพความพร้อมของร่างกายและจิตใจ ก่อนปฏิบัติหน้าที่ ปลอดแอลกอฮอล์และสารเสพติด รวมทั้งมีตรวจสมุดประจำรถ และตั้งด่านตรวจ และจุดตรวจรถโดยสารสาธารณะ (Checking Point) ของกรมการขนส่งทางบก เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยในระหว่างการเดินทางด้วย


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment