กรมศุลกากรตรวจยึดยาเสพติดลักลอบนำเข้าและส่งออกไปนอกราชอาณาจักร มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษก กรมศุลกากร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2566 ณ ศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิ กรมศุลกากร โดยกองสืบสวนและปราบปราม ร่วมกับชุดปฏิบัติการ AITF (AIRPORT INTERDICTION TASK FORCE) ประกอบด้วย กรมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปราม ยาเสพติด และศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ กองบัญชาการกองทัพไทย ได้ทำการวิเคราะห์ความเสี่ยง ในการลักลอบส่งของต้องห้าม ต้องจำกัด ออกนอกราชอาณาจักร ณ ศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิ พบว่ามีการลักลอบนำยาเสพติดออกนอกราชอาณาจักรผ่านพัสดุไปรษณีย์ด่วนพิเศษระหว่างประเทศ ปลายทางประเทศ AUSTRALIA ถึง 2 ชิปเม้นท์ โดยในช่วงเวลา 10.30 น. พบพัสดุต้องสงสัย สำแดงชนิดสินค้าเป็น Photo จำนวน 1 หีบห่อ น้ำหนักรวม 8.310 กิโลกรัม ตรวจสอบพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เฮโรอีน (Heroine) ลักษณะผงสีขาว ซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติกที่เคลือบทับด้วยเรซิน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 3,000 กรัม มูลค่า 9 ล้านบาท ต่อมา เวลา 11.30 น. พบพัสดุต้องสงสัย สำแดงสินค้าเป็น Photo จำนวน 1 หีบห่อ น้ำหนักรวม 8.440 กิโลกรัม ตรวจสอบพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เฮโรอีน (Heroine) ลักษณะผงสีขาว ซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติกที่เคลือบทับด้วยเรซิน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 2,993 กรัม มูลค่า 8.979 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 ชิปเม้นท์ มีการซุกซ่อนยาเสพติดในลักษณะเดียวกัน

การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตรา 242 มาตรา 244 ประกอบมาตรา 252 มาตรา 166 และมาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และประมวลกฎหมายยาเสพติด

นอกจากนี้ กรมศุลกากร และชุดปฏิบัติการ AITF ได้ร่วมกันตรวจสอบผู้โดยสารระหว่างประเทศที่มีความเสี่ยงในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยได้จับกุมผู้โดยสารหญิง สัญชาติเคนยา เดินทางมาจากเมืองแอดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย ปลายทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผลการตรวจค้น พบยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าถือติดตัว ขึ้นเครื่องบินและซุกซ่อนไว้ในร่างกายภายในช่องทวาร น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 1,240 กรัม มูลค่า 3.72 ล้านบาท

ในวันเดียวกัน กรมศุลกากร โดย สำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกับชุดปฏิบัติการ AITF จับกุมผู้โดยสารชาย สัญชาติอเมริกัน ซึ่งเดินทาง

มาจากกรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม ปลายทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผลการตรวจค้น กระเป๋าสัมภาระของผู้กระทำความความผิด พบวัตถุออกฤทธิ์ ประเภท 2 เคตามีน (Ketamine) น้ำหนัก รวมสิ่งห่อหุ้ม 3,100 กรัม ยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 ยาอี (MDMA / ECSTASY) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 1,000 กรัม และ MDA น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 3.1 กรัม และยาเสพติดให้โทษ ประเภท 4 (2C-B) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 3.1 กรัม มูลค่า 9.1 ล้านบาท โดยของกลางทั้งหมดถูกเก็บไว้ในช่องลับที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ

ในกระเป๋าเดินทางของผู้โดยสาร

การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตรา 242 ประกอบมาตรา 252 มาตรา 166 และมาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และประมวลกฎหมายยาเสพติด


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment