“อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์” ขับเคลื่อน “Green Logistics” ขนส่งพลังงานสะอาดด้วย รถ EV

อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ หรือ ILM เดินหน้าขับเคลื่อน “Green Logistics” การขนส่งและกระจายสินค้าด้วยพลังงานสะอาดจากรถไฟฟ้า 100% ประเดิมเส้นทางสายตะวันออก-เหนือ-อีสาน ชี้ลดต้นทุนได้ไม่ต่ำกว่า 5 MB / ปี สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกราว 878,590 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (kgCO2eq) เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 106,000 ต้น

นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM เปิดเผยว่า อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ได้พัฒนาระบบการขนส่งและกระจายสินค้า (Supply Chain) โดยขับเคลื่อน “Green Logistics” พลังงานสะอาดจากรถไฟฟ้า 100% (Electric Vehicles: EVs ) พร้อมทั้ง Optimize กลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ และของตกแต่งบ้าน เพื่อให้การจัดส่งที่คุ้มค่ามีประสิทธิภาพสูงสุด โดยนำสินค้าต้นทางจากคลังสินค้า (DC บางบอน) เพื่อการกระจายสินค้าส่วนภูมิภาคใน หัวเมืองต่างๆ รวมทั้งสิ้น 7 คัน ด้วยรูปแบบ EV Truck (6 ล้อพ่วง ขนาด 14 W) บรรทุกน้ำหนักได้ 15 ตัน และ รถ EV (6 ล้อขนาด 6 W ) บรรทุกน้ำหนักได้ 5 ตัน พร้อมกับติดตั้ง EV Charger ที่คลังสินค้า (DC บางบอน) รวม 2 ชุด ขนาด 150 kWh ซึ่งเริ่มขนส่ง Q4 / 2566 เฟตแรกเริ่มวิ่งเส้นทางสายตะวันออก-สายเหนือ-สายอีสาน พื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ พิษณุโลก นครราชสีมา ขอนแก่น เชียงใหม่ รวม ILM 5สาขา (ขนส่งต่างจังหวัด 1-2 เที่ยวต่อสาขาต่อวัน) และเตรียมขยายเส้นทางการเดินรถต่อเนื่อง โดยจะศึกษาความพร้อมด้านต่างๆ และเส้นทางที่มีศักยภาพ เช่น จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฏร์ธานี ระยอง สุรินทร์ ทั้งนี้เพื่อดำเนินงานตามแผนระยะยาว “Energy Saving & Efficiency in Retail Stores” การประหยัดพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพในธุรกิจค้าปลีก ในการลดใช้พลังงานเชื้อเพลิง เซฟคอร์สทั้งค่าน้ำมันเชื้อเพลิงและการซ่อมบำรุง ทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศและเสียง รวมถึงลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ถือเป็นวาระเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนต่างให้ความสำคัญ (จากข้อมูลขององค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) พบว่า ในปี 2019 ภาคขนส่งมีการปล่อยก๊าซ CO2 สูงเป็นอันดับ 3 รองจากภาคพลังงานและภาคอุตสาหกรรม เมื่อคิดเฉพาะการขนส่งสินค้าทางถนน จะมีสัดส่วนการปล่อยก๊าซ CO2 ถึงราว 30% ของภาคขนส่ง )

ทั้งนี้การเปลี่ยนผ่านการขนส่งและการกระจายสินค้าด้วยรถ EV นี้ นอกจากจะเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์แล้ว ยังถือเป็นโอกาสที่จะสร้างการเติบโตทางธุรกิจสู่เป้าหมายควบคู่กับบริบทการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นพื้นฐานของความเป็นอยู่และการใช้ชีวิตที่ดี โดยรถบรรทุกไฟฟ้าทั้ง 7 คันที่ดำเนินการในเฟตแรก (5 จังหวัด) คาดจะช่วยเซฟค่าใช้จ่ายได้ราว 5 MB / ปีเทียบกับอัตราการเดินรถระหว่างเครื่องยนต์สันดาปกับรถEV และสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกราว 878,590 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (kgCO2 eq) (*จำนวน CO2 อ้างอิงจำนวนการขนส่ง) หรือเมื่อเทียบกับยานยนต์ประเภทไฟฟ้า จำนวน 7 คัน จะเท่ากับการปลูกต้นไม้ 106,000 ต้น ทั้งนี้ในอนาคตบริษัทฯ วางเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนรถบรรทุกไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อครอบคลุมทุกเส้นทางสาขาอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ในประเทศไทยภายในปี 2567 โดยต้องพิจารณาปัจจัยหลายๆ ด้านทั้งความคุ้มค่า และการพัฒนาสถานีชาร์จให้มีความเหมาะสมทั้งด้านจำนวนสถานี พื้นที่ครอบคลุม รวมถึงกำลังในการจ่ายและปริมาณสำรองไฟฟ้าอีกด้วย


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment