{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) โชว์ กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) งวด 6 เดือน 2566 เติบโต โดยมีจำนวน 4,090.24 ล้านบาท คิดเป็น 80 ของรายได้
นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SUPER) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ 4,090.24 ล้านบาท หรือ EBITDA margin ในอัตรา 80 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ประมาณ 3,900 ล้านบาท โดยในไตรมาส 2 /2566 EBITDA อยู่ที่ 1,886.07 ล้านบาท
ทั้งนี่การเติบโตของ EBITDA มาจากบริษัทฯ เริ่มรับรู้รายได้จากโครงการที่ลงทุน จากโครงการโรงไฟฟ้า SPP Hybrid ขนาดกำลังการผลิต 16 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในจังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งร่วมกับแบตเตอรี่ ผลิตและขายไฟฟ้าได้ในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์เมื่อต้นปี2566 และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะ ของบริษัท หนองคายน่าอยู่ จำกัด หรือ NKY ซึ่งเป็นบริษัทย่อย จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ หรือ COD ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งมีปริมาณซื้อขายไฟตามสัญญา (PPA) จำนวน 6 เมกะวัตต์ เป็นต้น ซึ่งสนับสนุนการเติบโตของรายได้ให้เป็นไปตามแผนงาน
สำหรับแนวโน้มภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังมีสัญญาณที่ดีต่อเนื่อง คาดว่าจะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD)ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศเวียดนาม “Soc Trang” กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์กับมหาวิทยาลัยมหิดล กำลังการผลิต 14 เมกะวัตต์ ในช่วงปลายไตรมาส 3 ถึงต้นไตรมาส 4 ของปีนี้ สนับสนุนการเติบโต โดยตั้งเป้าหมายรายได้อยู่ที่ระดับ 10,000 – 11,000 ล้านบาท หรือเติบโต10% จากปีก่อน และมองหาโอกาสเพื่อเข้าไปลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆในประเทศต่างๆ รวมถึงการเข้าลงทุนในเวียดนามตามแผนพัฒนาพลังงาน PDP8 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้พอร์ตกำลังผลิตเติบโตเท่าตัวในอีก 2 ปีข้างหน้า
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS