หวั่นวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ฉุดรับสร้างบ้านชะงัก

ส.ไทยรับสร้างบ้าน หวั่นวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน บานปลายและยืดเยื้อ ส่อแววเศรษฐกิจชะงัก กระทบตลาดรับสร้างบ้านครึ่งปีหลัง ต้นทุนการผลิตจากราคาน้ำมันเป็นตัวแปรทำต้นทุนค่าขนส่งปรับตัวสูงขึ้น หากผู้ประกอบการแบกรับต้นทุนไม่ไหว ราคาบ้านมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกระลอก ฉุดความเชื่อมั่นและกำลังซื้ออย่างแน่นอน

นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมไทยรับสร้างบ้าน เปิดเผยภาพรวมของธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2565 ว่า ธุรกิจรับสร้างบ้านยังต้องเผชิญกับวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ผู้ติดเชื้อรายใหม่ทะลุ 20,000 คนต่อวัน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยทำให้กลับมาฟื้นตัวได้ช้าลง และล่าสุดกับสถานการณ์ในระดับโลก จากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่เริ่มตึงเครียดและส่อเค้าจะทวีความรุนแรงอาจส่งผลกระทบด้านเศรฐกิจเป็นวงกว้างไปทั่วโลก จากมาตรการคว่ำบาตรของนานาประเทศทั้งฝั่งอเมริกา กลุ่มประเทศในยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และปัจจัยสำคัญที่ทั่วโลกจับตามองคือ ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีทิศทางปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหมายถึงราคาสินค้าอุปโภค-บริโภค จะขยับสูงขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ จนส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจภายในประเทศไทยที่จะกลับมาชะลอตัวอีกครั้ง และกระทบต่อภาคประชาชนเป็นอย่างมาก”

สำหรับตลาดรับสร้างบ้านในครึ่งปีแรก แม้ขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่หากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนยืดเยื้อก็เชื่อว่าในครึ่งปีหลังคงจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน จากเรื่องของราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น ซึ่งส่งผลต่อต้นทุนการผลิตและค่าขนส่ง โดยเฉพาะต้นทุนการขนส่งและระยเวลาขนส่งวัสดุอุปกรณ์บางชนิดที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ อาทิ เหล็ก ลิฟต์ วัสดุตกแต่ง เป็นต้น ที่ต้องใช้ระยะเวลามากขึ้นทำให้สินค้าขาดตลาดหรือมีราคาแพงขึ้น ผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างอาจมีการปรับราคาขึ้นอีกครั้ง หลังจากในช่วงปลายปี 2564 มีการปรับขึ้นปรับราคามาก่อนแล้ว ผู้ประกอบการ รับสร้างบ้านจะต้องแบกรับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งควรจะต้องเร่งหาแนวทางการปรับตัว เพื่อคงต้นทุนเดิมและสามารถรับมือได้กับความผันผวนของต้นทุนที่จะปรับตัวสูงขึ้น หรืออาจมีการปรับราคาบ้านหากแบกรับต้นทุนต่อไม่ไหว

แม้ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมากำลังซื้อและความต้องการปลูกสร้างบ้านเริ่มมีสัญญาณกลับมาขยายตัวดีขึ้นโดยปีนี้บริษัทรับสร้างบ้านในกลุ่มสมาคมฯ ส่วนใหญ่มียอดจองและเซ็นสัญญาเติบโตใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเลือกใช้การตลาดออนไลน์ที่เน้นกลยุทธ์เจาะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ตามคำแนะนำของสมาคมฯ พร้อมนำเสนอให้ผู้บริโภคเห็นถึงความน่าเชื่อถือแบรนด์ของตัวเอง ผ่านประสบการณ์ของลูกค้าที่เคยใช้บริการ เพราะชัดเจนกว่าและมีความยั่งยืนกว่าการอาศัยความน่าเชื่อถือจากหน่วยงานใด ๆ มารับรองแทน รวมถึงการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์และกระบวนการก่อสร้างที่มีคุณภาพและแตกต่างจากผู้ประกอบการทั่วไป

อย่างไรก็ตามหากปัญหาการสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครนบานปลาย และปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจทั้งภายในและต่างประเทศเป็นเช่นนี้ คาดการณ์ว่าในช่วงครึ่งปีหลังแนวโน้มเศรษฐกิจมีโอกาสชะงักและหดตัวอีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภค ที่มีความรู้สึกกังวลต่อสถานการณ์หรือยังไม่แน่ใจ ย่อมมีโอกาสสูงที่จะชะลอการตัดสินใจสร้างบ้านออกไปก่อน เช่น กลุ่มลูกค้าพนักงานประจำ เจ้าของธุรกิจ SME และกลุ่มนักลงทุน ซึ่งจะส่งผลทำให้ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านครึ่งปีหลังชะลอตัวตาม ความเสี่ยงและการแข่งขันในธุรกิจจะรุนแรงมากขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นสมาคมฯ ได้เตรียมหารือและแนะนำแนวทางปรับตัว เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น รวมถึงทิศทางธุรกิจและการแข่งขันในครึ่งปีหลังเร็ว ๆ นี้


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment