LEO ส่งซิก Q2/64สัญญาณดี

ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) เผยไตรมาส 2/64 อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ยังคงสดใส ปริมาณขนส่งคึกคัก ค่าระวางปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง เดินหน้าขยายบริการกับ China Post เร่งขยายพื้นที่ LEO Self Storage และ Container Depot

นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 2/2564 แนวโน้มอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง เนื่องจากปริมาณความต้องการขนส่งสินค้าทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อีกทั้ง อัตราค่าระวางทั้งทางเรือ ทางอากาศ ก็ยังคงอยู่ในระดับที่สูง และคาดว่าจะยืนสูงไปได้ถึงครึ่งแรกของปีนี้

ขณะเดียวกัน บริษัท เดินหน้าขยายบริการจากการจับมือกับพันธมิตรอย่าง China Post Group ซึ่งจะช่วยต่อยอดทางธุรกิจให้กับ LEO ในการพัฒนาธุรกิจการขนส่งสินค้า International/Cross Border E-commerce และธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศให้เติบโตขึ้น และทำให้ในปี 2564 บริษัทมีการเติบโตทางรายได้ไม่น้อยกว่า 40-45% และคาดว่าจะผลักดันให้รายได้สามารถทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่

รวมทั้ง บริษัทได้เริ่มโครงการขยายธุรกิจลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ (Container Depot) แห่งที่ 2 บริเวณ ถนน บางนา-ตราด ขาเข้า กม.21 เพื่อรองรับความต้องการใช้บริการ เนื่องจากปัจจุบันอุตสาหกรรมเผชิญกับภาวะขาดแคลนพื้นที่ให้บริการ พักตู้สินค้า คาดว่าสามารถเริ่มดำเนินการได้อย่างช้าไม่เกินไตรมาส 4 ปี 2564 โดยโครงการลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ แห่งที่ 2 นี้ มีเนื้อที่ 31 ไร่ มีขนาดใหญ่กว่าโครงการที่ 1 ที่มีเนื้อที่ 12.5 ไร่ ประมาณ 2.5 เท่า ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่เพียงพอที่จะสามารถทำลานให้บริการตู้ Reefer Container ที่สามารถสร้างรายได้จากบริการ Value Added Services มากกว่าตู้ Dry Container

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในโครงการบริการห้องเก็บของส่วนบุคคล (Self Storage) แห่งที่ 2 ที่มีพื้นที่เพิ่มอีก 2-3 พันตารางเมตร โดยจะตั้งอยู่ในบริเวณใกล้ย่านเยาวราช หรือ China Town ของกรุงเทพ ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของกรุงเทพฯ โดยใช้ชื่อว่า LEO Self Storage China Town

สำหรับงบลงทุนในปีนี้คาดว่าจะใช้เงินประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการเข้าซื้อกิจการ (M&A) และขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการโลจิสติกส์ โดย เร็วๆ นี้คาดว่าจะมีการเจรจาร่วมทุนกับพันธมิตรรายใหม่เพิ่มเติมอีก ดังนั้นน่าจะสนับสนุนการเติบโตในระยะยาวได้เป็นอย่างดี โดยบริษัท ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 2566 จะมีการเติบโตเป็น 2 เท่า หรือ 2,000 ล้านบาท จากปี 2564

อนึ่ง บริษัทฯรายงานผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส1/2564 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 27.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 191% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 9.3 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 473.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวมเท่ากับ 228.1 ล้านบาท


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment