ททบ.5-กษ.ดึงJDขนสินค้าไทยบุกตลาดจีน

ททบ.5-ก.เกษตรฯจับมือ JD อีคอมเมิร์ซจากจีน นำสินค้าเกษตรไทยและพรีเมียมขายผ่าน“เจดีดอทคอม” (JD.com) เจาะตลาดจีน เพื่อช่วยเหลือและเพิ่มรายได้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการ

พลโท รังษี กิติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ในฐานะตัวแทนกองทัพบก เปิดเผยว่า ททบ.5 จึงจับมือกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดึงพันธมิตร อย่าง “JD” ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซประเทศจีน นำสินค้าเกษตรไทย เช่น ทุเรียน ข้าวหอมมะลิ รวมทั้งสินค้าผ้าไหมไทย เครื่องสำอาง เครื่องหนัง ฯลฯ ขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ “เจดีดอทคอม (JD.com) โดยเน้นสินค้าระดับพรีเมียมเป็นหลัก คาดว่าภายใน 2 สัปดาห์จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ว่า จะนำสินค้าใดขายในช่องทางดังกล่าวได้ก่อน

ซึ่งการนำเสนอสินค้าเกษตรขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ “เจดีดอทคอม (JD.com) จะเป็นการไลฟ์สด ส่งตรงไปยังลูกค้าสมาชิกของเจดีดอทคอม ทางเจดีดอทคอม จะเป็นผู้รับออร์เดอร์ให้ไทย และส่งออร์เดอร์ดังกล่าว กลับมาให้ OHLALA SHOPPING.com ซึ่งเป็นตัวกลางแพลตฟอร์มออนไลน์ของไทย เพื่อเตรียมออร์เดอร์ส่งกลับไปยังประเทศจีน โดยจะใช้เวลาจัดส่งถึงมือผู้บริโภคชาวจีนภายใน 2 วัน

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การจับมือกับ “เจดีดอทคอม (JD.com) นำเสนอสินค้าเกษตรไทยไปสู่มือผู้บริโภคชาวจีน ผ่านระบบออนไลน์ของทางททบ.5 ครั้งนี้ ถือว่าเป็นระบบการขายรูปแบบใหม่ หรือเป็นอนาคตแห่งการขายสินค้าเกษตรที่เปลี่ยนจากการขายในช่องทางปกติ มาใช้ระบบออนไลน์ขายล่วงหน้า ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการยกระดับสินค้าเกษตรไทย ช่วยแก้ปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาดช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ช่วยสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับภาคการเกษตร ซึ่งหลังจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะทำการคัดเลือกสินค้าเกษตรที่ดีได้ผลิตผลที่มีคุณภาพ และปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคเข้าร่วมโครงการ พร้อมเชิญชวนเกษตรกรที่สนใจ ได้นำสินค้าเข้าร่วมโครงการและขยายตลาดสู่ต่างประเทศมากขึ้น

สำหรับ JD.com ปัจจุบันคือ ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซของจีน จนได้รับการขนานนาม ว่า อเมซอนแห่งจีน ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยมี นายริชาร์ด หลิว เป็นผู้ก่อตั้ง ทั้งนี้ JD.com มีจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่ง 2 ประการ ได้แก่ 1.วางตัวเองตั้งแต่เริ่มธุรกิจว่า เป็นอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มที่จำหน่ายสินค้าของแท้เท่านั้น เพื่อความเชื่อมั่นในตัวสินค้าที่จำหน่าย และ 2.การมีระบบขนส่งเป็นของตัวเอง เพื่อควบคุมประสบการณ์การซื้อสินค้าที่ดีในแพลตฟอร์ม JD.Com ตั้งแต่หน้าร้านค้าไปถึงมือผู้บริโภค

ทั้งนี้ มีรายงานประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2563 ที่ผ่านมา มีรายได้รวม 28,457 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 33.8% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2562 และมีกำไรสุทธิ 2,328 ล้านดอลลาร์




COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment