UPAทุ่ม146ล้านซื้อโครงการโซลาร์สหกรณ์อุดรฯจ่อรับรู้รายได้ทันที

UPAทุ่มงบ 146 .82 ล้านบาท ลงทุนโครงการโซลาร์สหกรณ์ฯ อุดรธานี กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ จ่อรับรู้รายได้ทันที มั่นใจหนุนผลงานปี 64 เข้าสู่โหมดการเติบโตรอบใหม่

นายพรอินทร์ แม้นมาลัย กรรมการบริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) (UPA) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้บริษัท พาราโบลิก โซลาร์ พาวเวอร์ จากัด (PSP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ เข้าซื้อขายหุ้นของ บริษัท บีเอส โซลาร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด จำนวน 629,997 หุ้น ในมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 100 บาท จากบริษัท บางจักรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท บีเอส โซลาร์ ในราคา 233.05 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่า 146.82 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัท บีเอส โซลาร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร จำนวน 1 โครงการในจังหวัดอุดรธานี กำลังการผลิต 5 เมกกะวัตต์ โดยเป็นผู้ผลิต และจำหน่ายติดตั้ง ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นระยะเวลา 25 ปี มีอัตราการรับซื้อไฟฟ้า (FiT) ที่ 4.12 บาทต่อหน่วย ได้ดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์แล้วตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2561 ผ่านมา

สำหรับการเข้าไปลงทุนในครั้งนี้ เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญในการขยายการลงทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพในการเติบโตของบริษัทฯในระยะยาว โดยธุรกิจโรงไฟฟ้าเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของบริษัทฯ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจ ขณะที่โครงการดังกล่าว เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว และเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2561 ทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้ และกำไร ได้ทันทีภายหลังการลงทุน อีกทั้งยังมีสัญญาขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคระยะเวลาขายไฟฟ้า 25 ปี

นายพรอินทร์ กล่าวว่า แผนการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2564 เตรียมเดินหน้าขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงโครงการต่างๆ ในกลุ่มประเทศ CLMV ต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตให้กับธุรกิจ และมั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานจะสามารถพลิกกลับมามีกำไร ตั้งแต่ไตรมาส 1/64 เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากโครงการโซลาร์ฟาร์มในประเทศเวียดนาม 46.7 เมกะวัตต์ ที่รับรู้เต็มปี รวมกับงานโซลาร์สหกรณ์ในประเทศไทยที่มีอยู่ 7.95 เมกะวัตต์ และโครงการผลิตน้ำประปาในสปป.ลาว

นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการการลงทุนในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ 200 เมกะวัตต์ ที่เมียนมา คาดว่าจะเป็นโครงการที่สนับสนุนรายได้ของ UPA ให้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 2567 อีกทั้งยังมีโครงการ One Central Tower ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพในพนมเปญ พร้อมพัฒนาโครงการอสังหาฯ ซึ่งจะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอนาคตอีกด้วย


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment