ธ.ก.ส.ย้ำมาตรการพักชำระหนี้ ลดดอก ยืดเวลาชำระหนี้ เพิ่มสภาพคล่องให้แก่เกษตรกรได้รับผลกระทบจากโควิด-19 พร้อมคืนเงินแก่ผู้ที่ชำระดีมี

ธ.ก.ส.ย้ำมาตรการพักชำระหนี้ ลดดอก ยืดเวลาชำระหนี้ เพิ่มสภาพคล่องให้แก่เกษตรกรได้รับผลกระทบจากโควิด-19 พร้อมคืนเงินแก่ผู้ที่ชำระดีมี

นายสุรชัย รัศมี รองผู้จัดการ รักษาการแทนผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.พร้อมเดินหน้าดูแลและให้การช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากคณะรัฐมนตรีอนุมัติขยายเวลาการใช้วงเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ ธ.ก.ส. ออกไปจนถึง 30 มิ.ย. 2564

โดยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 รวมภัยธรรมชาติก่อนหน้านี้ ธ.ก.ส.มีมาตรการดูแลเกษตรกรมาอย่างต่อเนื่อง และจะดำเนินการต่อไป ได้แก่

1. มาตรการช่วยเหลือด้านภาระหนี้สิน เพื่อลดภาระและผ่อนคลายความกังวลในช่วงวิกฤต ให้สามารถดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพได้อย่างต่อเนื่อง โดยการปรับปรุงโครงสร้างการชำระหนี้ (Loan Review) ให้สอดคล้องกับที่มาของรายได้ และการพักชำระหนี้ต้นเงินและดอกเบี้ยเงินกู้ทั้งระบบ 1 ปี ซึ่งจะสิ้นสุดโครงการในเดือนมิถุนายน 2564 โดยมีเกษตรกรลูกค้า สหกรณ์ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนได้รับประโยชน์ ณ 22 ตุลาคม 2563 จำนวนกว่า 3.25 ล้านราย วงเงินพักชำระหนี้กว่า 1.45 ล้านล้านบาท

2. มาตรการสนับสนุนสินเชื่อ เพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ ลดปัญหาการว่างงาน กระตุ้นกลไกการซื้อขายผลผลิตทางการเกษตร ได้แก่ โครงการสนับสนุนสินเชื่อธุรกิจ SME โดยใช้ Soft Loan ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารออมสิน อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี ซึ่งมีเกษตรกร ผู้ประกอบและวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ โครงการสินเชื่อฉุกเฉิน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและครอบครัวในการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายจำเป็นและฉุกเฉินภายในครัวเรือน

ส่วนล่าสุด ธ.ก.ส. ได้ออกมาตรการดูแลลูกค้าที่มีประวัติการชำระหนี้ดี รวมถึงการช่วยเหลือลูกค้าที่ยังคงมีหนี้อันเป็นภาระหนักได้ลดความกังวล สามารถมีเงินกลับคืนเข้าสู่กระเป๋า ดังนี้

1) โครงการชำระดีมีคืน สำหรับลูกหนี้ที่มีสถานะหนี้เป็นหนี้ปกติ และไม่มีดอกเบี้ยค้างชำระเกิน15 เดือน ซึ่งต้องมีหนี้คงเหลือ ณ 31 ตุลาคม 2563 ยกเว้นสัญญาเงินกู้ตามโครงการที่ได้รับชดเชยดอกเบี้ย ตามนโยบายรัฐบาล เมื่อชำระจะได้รับคืนดอกเบี้ยโดยการโอนคืนเข้าบัญชีเงินฝากของลูกค้าในวันถัดไปหลังจากวันที่ชำระหนี้ กรณีเป็นเกษตรกร และบุคคล จะได้รับเงินคืนในอัตราร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง แต่ไม่เกินรายละ 5,000 บาท และกรณีกลุ่มบุคคล กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ นิติบุคคล และกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จะได้รับเงินคืนในอัตราร้อยละ 10 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง แต่ไม่เกินรายละ 50,000 บาท วงเงินงบประมาณ 3,000 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 – 31 มีนาคม 2564 หรือจนกว่าจะเต็มวงเงินงบประมาณ

2) โครงการลดภาระหนี้ สำหรับลูกค้าที่มีสถานะหนี้เป็นหนี้ค้างชำระหรือสถานะหนี้ปกติที่มีดอกเบี้ยค้างชำระเกินกว่า 15 เดือน ซึ่งต้องมีหนี้คงเหลือ ณ 31 ตุลาคม 2563 ยกเว้นสัญญาเงินกู้ตามโครงการที่ได้รับชดเชยดอกเบี้ยตามนโยบายรัฐบาล โดย ธ.ก.ส. จะนำดอกเบี้ยที่คืนให้มาลดภาระหนี้ด้วยการตัดชำระต้นเงิน และหลังจากตัดชำระหนี้แล้ว มีเงินคงเหลือจะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกรในวันถัดไป ซึ่งในกรณีลูกค้าเกษตรกรและบุคคล จะได้รับคืนดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง และกรณีกลุ่มบุคคล กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ นิติบุคคล และกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จะได้รับคืนดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราร้อยละ 10 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง ไม่จำกัดวงเงินที่จะคืน ระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 – 31 มีนาคม 2564

นอกจากนี้ ธ.ก.ส.ยังมีมาตรการเพื่อดูแลเกษตกรบางส่วนว่างงานหรือไม่สามารถขายผลผลิตได้ตามปกติ ทำให้ไม่มีรายได้ จนนำไปสู่ปัญหาการกู้เงินนอกระบบ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยการออกมาตรการจัดการหนี้นอกระบบอย่างยั่งยืน จำนวน 3 โครงการ ประกอบด้วย

1) โครงการแก้ไขหนี้นอกระบบของเกษตรกรและบุคคลในครัวเรือน สำหรับชำระหนี้นอกระบบ วงเงินกู้ไม่เกินรายละ 100,000 บาท เว้นแต่กรณีมีวัตถุประสงค์ในการสงวนที่ดินทำกินที่ลูกหนี้ใช้ที่ดินในการจำนองไม่เกินรายละ 150,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 12 ต่อปี ระยะเวลาชำระหนี้ 10 ปี สูงสุดไม่เกิน 12 ปี พร้อมรับสิทธิประโยชน์ความคุ้มครองสินเชื่อกรณีเสียชีวิตรายละไม่เกิน 100,000 บาท และการคืนดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 30 ของดอกเบี้ยที่ชำระหนี้

2) โครงการสินเชื่อวงเงินพร้อมใช้ Smart Cash สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการแก้ไขหนี้นอกระบบที่ชำระหนี้ตรงตามระยะเวลาที่กำหนดและมีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินฉุกเฉิน ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการก่อหนี้นอกระบบของลูกค้า โดยสนับสนุนเงินเครดิตหมุนเวียนผ่านบัตร ATM ตามต้นเงินกู้ที่ได้รับชำระหนี้ตามโครงการแก้ไขหนี้นอกระบบ สูงสุดรายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยตามชั้นลูกค้า ระยะเวลาชำระหนี้ไม่เกิน 12 เดือน นอกจากนี้ยังได้รับสิทธิประโยชน์ผ่านการคุ้มครองสินเชื่อกรณีเสียชีวิต รายละไม่เกิน 50,000 บาท

3) โครงการสินเชื่ออาชีพเสริมเพิ่มรายได้ เพื่อสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับลูกค้าที่ได้รับการแก้ไขหนี้นอกระบบมาเป็นหนี้ในระบบธนาคารแล้ว ให้สามารถสร้างรายได้เพิ่มจากการประกอบอาชีพเสริม วงเงินกู้รายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 ต่อปี ในช่วง 6 เดือนแรก และตั้งแต่เดือนที่ 7 เป็นต้นไปอัตราดอกเบี้ย MRR ระยะเวลาชำระหนี้ 10 ปี ในส่วนของหลักประกันสินเชื่อของทั้ง 3 โครงการ สามารถใช้ที่ดินจำนอง ได้จำนวนร้อยละ 95 ของวงเงิน กรณีบุคคล 2 คนค้ำประกัน วงเงินไม่เกิน 300,000 บาท และกรณีข้าราชการ 1 คนค้ำประกัน วงเงินไม่เกิน 100,000 บาท วงเงินสินเชื่อรวม 8,000 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2563 – 31 มีนาคม 2566


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment