เอกา โกลบอลปักธรงปี 64 เน้นนวัตกรรม สร้างองค์กรสู่การเติบโตที่ยั่งยืนพร้อมเอสเอ็มอีไทย

นายชัยวัฒน์ นันทิรุจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอกา โกลบอล จำกัด (EKA GLOBAL) เปิดเผยว่า เอกา โกลบอลในปี 2564 เอกา โกลบอล ให้ความสำคัญกับการเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม และเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) อย่างสมบูรณ์ เพื่อมุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับองค์กร (Sustainable Growth) พร้อมกับให้ความสำคัญด้านการพัฒนานวัตกรรม และการวิจัย (R&D) เพื่อคิดค้นและพัฒนาบรรจุภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ที่สามารถนำมาหมุนเวียนเป็นวงจรต่อเนื่องโดยไม่มีของเสีย ตลอดจนผลักดันบริษัท ให้ก้าวสู่การเป็นองค์กรแห่งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสร้างความสมดุลในการดึงทรัพยากรธรรมชาติมาใช้งานใหม่

นอกจากนี้ยังตอกย้ำการเดินหน้าสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับเอสเอ็มอีไทย จากการนำโมเดลในประเทศอินเดียที่บรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารของเอกา โกลบอล ได้ไปช่วยให้ผู้ประกอบการอาหารรายเล็กของอินเดีย กลายเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีสินค้าส่งไปขายในระดับโลกได้ ซึ่งมั่นใจว่าโมเดลนี้จะเกิดผลสำเร็จในประเทศไทยได้เช่นกัน โดยปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้นำร่องโครงการทดสอบการจัดเก็บอาหารกับบรรจุภัณฑ์อาหารวิถีใหม่ให้กับเอสเอ็มอี ประเภทอาหารและขนมหวานในกรุงเทพฯ และปริมณฑลไปแล้ว ซึ่งประสบความสำเร็จ และได้รับความสนใจล้นหลาม ดังนั้นในปี 2564 จึงเตรียมขยายการทำงานไปสู่ภูมิภาค เพื่อให้เอสเอ็มอีไทยทั่วประเทศได้เข้าถึงเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารของเอกา โกลบอล และนวัตกรรมบรรจุแบบดัดแปรบรรยากาศ Modified Atmosphere Packaging Process หรือ MAP รวมถึงยังมองว่าในอนาคตมีโอกาสขยายผลไปสู่ตลาดเอสเอ็มอีในประเทศเพื่อนบ้าน และในภูมิภาคเอเชียต่อไปได้อีก

สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่อยู่ใกล้พื้นที่โรงงานเอกา โกลบอล และสนใจนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร และนวัตกรรม MAP สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eka-global.com หรือติดต่อเพื่อเข้าอบรมที่ห้องแล็บเอกา โกลบอล ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ที่เบอร์โทรศัพท์ 038-574-187

ส่วนในปี 2563 อุตสาหกรรมธุรกิจอาหารทั่วโลกเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้ผู้คนจำเป็นต้องอาศัยอยู่บ้านยาวนานขึ้น จึงเกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้ออาหารต่อครั้งในปริมาณที่เยอะขึ้น ขณะที่คนไทยเริ่มเห็นความสำคัญของบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร รวมถึงผู้ประกอบการอาหารรายย่อยในประเทศ (เอสเอ็มอี) เริ่มตระหนักและมองหานวัตกรรมด้านบรรจุภัณฑ์มากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งทั้งหมดส่งผลบวกต่อยอดขายของบริษัทฯ ในปีที่ผ่านมา ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว ขณะที่อุตสาหกรรมอาหารภายในประเทศโดยรวม มีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20-30%

โดยสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นและต่อเนื่องมาในปีนี้ ส่งผลต่อการตื่นตัวของผู้บริโภคในประเทศ และทั่วโลก มีความต้องการอาหารที่มีความปลอดภัยสูง (Food Safety) มากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจนสร้างการใช้ชีวิตวิถีใหม่ ในปีนี้ บริษัทฯ เตรียมนำระบบอัตโนมัติ (Automation) เข้ามาใช้ และจะค่อยๆ ปรับเพิ่มขึ้นในอนาคต เพื่อลดการสัมผัส ลดการปนเปื้อนที่อาจเกิดขึ้นภายในโรงงาน และยังรองรับปัญหาในอนาคตหากเกิดวิกฤตโรคติดต่อใหม่ๆ ที่อาจมีกระทบต่อแรงงานขาดหายไป และอาจมีผลกระทบต่อธุรกิจที่หยุดชะงักตามไปด้วยเช่นกัน


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment