{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ขานรับนโยบาย “ฝ่า-ฟัน-ดึง-ดัน” ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เร่งจัดสรร “เงินผลประโยชน์พิเศษแก่รัฐ” ปี 2568 วงเงินรวมกว่า 457 ล้านบาท พัฒนา 130 ชุมชนรอบเหมืองใน 43 จังหวัด พร้อมเริ่มจัดสรรเงิน 21 ตุลาคม 2568 นี้
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การจัดสรรเงินผลประโยชน์พิเศษแก่รัฐให้แก่ชุมชนต่าง ๆ ในครั้งนี้ เป็น “สวิตช์เร่งด่วน” ที่สะท้อนเป้าหมายการทำงานให้เห็นผลใน 120 วัน เฉือนปัญหาเชิงโครงสร้างด้วยนโยบาย ฝ่า : รับมือปัญหาเร่งด่วนและช่วยผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ฟัน : จัดระเบียบ บังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมเข้ม ดึง : ดึงเงินลงทุนด้วย BCG และพลังงานสะอาด และ ดัน : วางรากฐานสู่อุตสาหกรรมอนาคต โดยต้องการยกระดับมาตรฐานเหมืองให้เดินคู่กับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่เพื่อให้ชุมชนรู้สึกได้จริงว่ามีการจัดสรรผลประโยชน์คืนกลับสู่แหล่งกำเนิดแร่ ให้เหมืองแร่มีส่วนร่วมดูแลและพัฒนาชุมชนได้อย่างยั่งยืน เป็น “การคืนผลประโยชน์ตรง” ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผ่านกรอบกฎหมายที่ชัดเจนและตรวจสอบได้ ซึ่งเงินทุกบาทจะถูกใช้เพื่อการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม และก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่สัมผัสได้ในพื้นที่
ด้านจ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า อุตสาหกรรมเหมืองแร่เป็น “ซัพพลายเชนต้นน้ำ” ของอุตสาหกรรมไทย เม็ดเงินผลประโยชน์พิเศษฯ ตั้งแต่ที่เริ่มจัดเก็บ ในปี 2562 สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการวัตถุดิบของภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในกลุ่มพลังงานสะอาด โครงสร้างพื้นฐาน และอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลผลักดัน รายได้นี้จึงไม่ใช่แค่ตัวเลขในงบประมาณ แต่คือเงินหมุนเวียนที่กลับสู่ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรมตามแนวนโยบายที่ภาคอุตสาหกรรมต้องเป็นที่พึ่งพาได้
นายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ อธิบายเพิ่มเติมว่า ในปีที่ผ่านมา กพร. จัดสรรเงินผลประโยชน์พิเศษแก่รัฐไปแล้วกว่า 525 ล้านบาท ครอบคลุม 187 ชุมชน เพื่อนำไปใช้ยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา สาธารณสุข และกิจกรรมสร้างรายได้ของชุมชน โดยในปีนี้ กพร. จัดสรรเงินครอบคลุม 130 ชุมชน ใน 43 จังหวัด วงเงินรวม 457 ล้านบาท และในปีถัดไปตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะจัดสรรเงินให้ท้องถิ่น ปีละไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท ควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการกำกับดูแล ตรวจสอบ เพื่อความรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรม
“กพร. มุ่งมั่นพัฒนากลไกการอนุญาต กำกับดูแล และจัดสรรเงินผลประโยชน์พิเศษแก่รัฐให้กับชุมชนในพื้นที่อย่างเป็นธรรมและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยจะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการตรวจสอบข้อมูล รวมถึงผลักดันให้ผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับนโยบายของ ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม อันจะช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมเหมืองแร่เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาท้องถิ่น และอยู่ร่วมกับประชาชนในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง” นายอดิทัตฯ กล่าวทิ้งท้าย
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS