DRT ประเมินกำลังซื้อวัสดุก่อสร้างต้นปีไม่คึกคัก เร่งทำตลาดเชิงรุกทุกช่องทาง

บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร หรือ DRT ประเมินบรรยากาศตลาดวัสดุก่อสร้างต้นปีไม่คึกคักแม้เข้าสู่ไฮซีซั่น เร่งทำการตลาดเชิงรุกทุกช่องทางจำหน่าย มั่นใจทำรายได้ไตรมาส 1/2567 เท่ากับช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT

ผู้ผลิตและจำหน่ายระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์และบอร์ดไฟเบอร์ซีเมนต์ บอร์ดตกแต่งผนัง อิฐมวลเบา ไม้บันได SPC-FC ร้านกาแฟสำเร็จรูป (DIAMOND Cafe) และบริการติดตั้งโครงหลังคาและกระเบื้องหลังคา ภายใต้เครื่องหมายการค้า

‘ตราเพชร’ เปิดเผยว่า บรรยากาศการซื้อขายวัสดุก่อสร้างในเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2567 ไม่คึกคักเท่าที่ควร แม้เข้าสู่ช่วงฤดูการขายสินค้าวัสดุก่อสร้างและมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น มาตรการ Easy E-Receipt เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจยังฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ อัตราหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีที่อยู่ในระดับสูง ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มชะลอตัวจากอัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง และความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการพิจารณาสินเชื่อรายย่อยแก่ผู้ซื้อที่อยู่อาศัย

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มั่นใจว่าจะทำรายได้ไตรมาส 1/2567 ไม่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ 25 – 27% รวมถึงอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ย 80% จากความแข็งแกร่งของแบรนด์ “ตราเพชร”

การวางแผนทำการตลาดเชิงรุกในทุกช่องทางจำหน่าย การนำเสนอสินค้าใหม่ที่ได้รับการตอบรับที่ดี และการขยายตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มไม้สังเคราะห์จากโครงการบ้านจัดสรรสู่คอนโดมิเนียม ส่วนช่องทางห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายใหญ่มียอดขายอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ประกอบกับราคาวัตถุดิบที่ทรงตัวส่งผลดีต่อการบริหารต้นทุนการผลิต

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ วางกลยุทธ์ต่อยอดความหลากหลายของสินค้าภายใต้คอนเซ็ปต์ สวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง และการนำเสนอสินค้าพร้อมบริการ Diamond Roof Solutions ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากช่องทางลูกค้าโครงการ

สู่การสื่อสารผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายย่อยและห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ ที่กระจายอยู่ในจังหวัดต่างๆ เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการติดตั้งหลังคาแบบครบวงจรตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และจะเป็นปัจจัยสนับสนุนแนวโน้มภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปีนี้เติบโต 5% ตามเป้าหมาย

“เรามองว่าภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างน่าจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 2/2567 หลังจากรัฐบาลมีนโยบายเร่งการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ซึ่งจะเป็นผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศที่มีการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐเพื่อใช้พัฒนาโครงการต่างๆ และนำมาสู่การเปิดประมูลโครงการภาครัฐ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการตุ้นเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นการลงทุน ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และความต้องการใช้วัสดุก่อสร้าง” นายสาธิต กล่าว