TPCH แย้มครึ่งปีหลังโตเด่น บอร์ดไฟเขียวขายหุ้นบ.ย่อยกลุ่มโรงไฟฟ้ามูลค่ารวม 1,200 ล้าน

ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) ประเมินแนวโน้มผลงานครึ่งปีหลังเติบโตโดดเด่น จากโรงไฟฟ้าทั้งประเภทเชื้อเพลิงชีวมวล และเชื้อเพลิงขยะ 13 แห่ง เดินเครื่องได้เต็มกำลังการผลิต บอร์ดไฟเขียวขายหุ้นบริษัทย่อยในกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ ในราคาไม่น้อยกว่า 1,200 ล้านบาท

นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังของปี 2566 ยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เนื่องจากโรงไฟฟ้าที่จำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ทั้งโครงการโรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงชีวมวลและประเภทเชื้อเพลิงขยะ ทั้ง 13 แห่ง ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 122.30 เมกะวัตต์ สามารถเดินเครื่องได้เต็มกำลังการผลิต

โดยโรงไฟฟ้าทั้ง 13 แห่ง ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงชีวมวล CRB, MWE, MGP, TSG, PGP, SGP, PTG, TPCH 5, TPCH 1, TPCH 2, PBB และ PBM รวมทั้งโครงการโรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงขยะ สยาม พาวเวอร์ (SP)

ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้จําหน่ายหุ้นที่บริษัทฯ ถืออยู่ในบริษัทย่อย ประกอบด้วย 1.บริษัท ทีพีซีเอช เพาเวอร์ 1 จํากัด (TPCH 1) จำนวน 25,799,996 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 99.23 ของทุนจดทะเบียนของ TPCH 1, 2.บริษัท ทีพีซีเอช เพาเวอร์ 2 จํากัด (TPCH 2) จำนวน 25,799,996 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 99.23 ของทุนจดทะเบียนของ TPCH 2

3.บริษัท ทีพีซีเอช เพาเวอร์ 5 จํากัด (TPCH 5) จำนวน 19,799,996 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 99.00 ของทุนจดทะเบียนของ TPCH 5 และ4. บริษัท อีโค เอ็นเนอร์ยี กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น จํากัด (ECO) จำนวน 63,375,434 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 99.90 ของจำนวนทุนจดทะเบียนของ ECO ในราคาไม่น้อยกว่า 1,200,000,000 บาท ให้กับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้า โดยกําหนดให้ผู้จะซื้อจะต้องรับไปทั้งภาระหนี้ของกลุ่มบริษัทโรงไฟฟ้า ได้แก่ หนี้ที่มีอยู่กับธนาคาร

โดยผลประโยชน์ที่คาดว่าบริษัทฯ จะได้รับ และแผนการใช้เงินที่ได้รับจากการจำหน่ายหุ้น เพื่อไปใช้ลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าอื่น ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงโอกาสในการเข้าลงทุนในกิจการอื่น ๆ ตามนโยบายการลงทุนของบริษัทฯ ซึ่งสามารถสนับสนุนธุรกิจหลักของบริษัทฯ หรือธุรกิจที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญ และเป็นธุรกิจที่จะสร้างกำไรได้อย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว

“การจำหน่ายหุ้นของบริษัทย่อยกลุ่มสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้ง TPCH 1, TPCH 2, TPCH 5 และ ECO เพื่อนำเงินที่ได้มาลงทุนในโรงไฟฟ้าอื่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ หรือกิจการที่สนับสนุนธุรกิจหลักของบริษัทฯ ซึ่งจะทำให้มีผลประกอบการเพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับแผนการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนของบริษัทฯ” นางกนกทิพย์ กล่าว

นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH กล่าวว่า ส่วนแผนการลงทุนในต่างประเทศ บริษัทฯ กำลังศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนประเภท พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม ทั้งในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เนื่องจาก TPCH ได้เข้าร่วมลงทุนกับบริษัท แม่โขง พาวเวอร์ จํากัด (MKP) ในสัดส่วนร้อยละ 40 ที่ประกอบธุรกิจผลิต และจําหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ใน สปป.ลาว และ MKP ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 100 เมกะวัตต์ กับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) เรียบร้อยแล้ว โดยมีระยะเวลา 25 ปีนับจากวันที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date : COD) ปัจจุบันได้เซ็นสัญญากับผู้รับเหมาก่อสร้างแล้ว โดยคาดว่า จะเริ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้าได้ภายในไตรมาส 4/2566

ขณะเดียวกัน การลงทุนในประเทศกัมพูชา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาต ทั้งโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม โดยตั้งเป้ากำลังการผลิตรวมทั้ง 2 ประเภท ประมาณ 200-300 เมกะวัตต์ และ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายมีกำลังการผลิตรวม 500 เมกะวัตต์ ภายในปี 2569 แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงชีวมวล 90 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงขยะ 70 เมกะวัตต์ และโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมในต่างประเทศ 340 เมกะวัตต์


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment