ไทยเครดิตได้เพื่อนใหม่

โอลิมปัส แคปปิตอล เอเชีย หรือโอซีเอซื้อหุ้นธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย 25% รุกปล่อยสินเชื่อรายย่อย

นายวิญญู ไชยวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทโอลิมปัส แคปปิตอล เอเชีย หรือโอซีเอได้ทำการเข้าซื้อหุ้นของธนาคารไทยเครดิตฯ จาก โพลาลิส แคปปิตอล ซึ่งบริหารงานโดยกลุ่มบริษัทนอร์ทสตาร์ คิดเป็น25% ของทุนธนาคารไทยเครดิตฯ เพื่อร่วมกันบริหารธนาคารไทยเครดิตฯ ให้สามารถบริการทางการเงินแก่กลุ่มลูกค้าหลัก คือ กลุ่มลูกค้าไมโครไฟแนนซ์และไมโครเอสเอ็มอี และกลุ่มอื่นๆได้ทั่วถึงและดีขึ้น ทำให้ธนาคารเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด

นายรอย ออกุสตินัส กุนารา กรรมการผู้จัดการธนาคารไทยเครดิตฯ กล่าวว่า ธนาคารไทยเครดิตฯ คาดหวังการเข้าของโอลิมปัส แคปปิตอล ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์และบริการทางการเงินทั่วไป โดยเฉพาะนวัตกรรมด้านดิจิทัล รวมถึงเงินทุนจะช่วยยกระดับการให้บริการการเงิน และการเติบโตธนาคารดียิ่งขึ้น

ด้านนายโกลาฟ มาลิค กรรมการบริษัทโอลิมปัส แคปปิตอล และผู้บริหารสูงสุดร่วมของกลุ่มบริการทางการเงิน กล่าวว่า โอลิมปัส แคปปิตอล มุ่งเน้นการลงทุนในภาคบริการทางการเงิน ดำเนินธุรกิจด้วยความเชี่ยวชาญและมีผลงานที่โดดเด่นในการสร้างมูลค่าให้แก่บริษัทที่โอลิมปัส แคปปิตอลได้เข้าร่วมทุน ซึ่งธนาคารไทยเครดิตฯ ถือว่าประสบความสำเร็จในการเอาชนะความท้าทายในการให้บริการทางการเงินให้แก่กลุ่มลูกค้าที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบของประเทศไทยได้ ด้วยการดำเนินธุรกิจที่แตกต่าง

ในปีที่ผ่านมา บริษัทได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับเครดิต แอ็กเซส เอเชีย ซึ่งเป็นบริษัทไมโครไฟแนนซ์ที่โอลิมปัส แคปปิตอลได้เข้าร่วมทุน ในการนำเครดิตแอ๊กเซส กราเมีย เข้าตลาดหลักทรัพย์อินเดีย บริษัทมุ่งมั่นที่จะร่วมงานกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่และคณะผู้บริหารระดับสูงของธนาคารในการสร้างรากฐานที่มั่นคงและการเติบโตอย่างรวดเร็วแก่ธนาคาร

ขณะที่นายแดเนียล มินซ์ กรรมการผู้จัดการซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งโอลิมปัส แคปปิตอล กล่าวว่า โอซีเอมีความเชื่อมั่นว่าธนาคารไทยเครดิตฯ มีโอกาสทางธุรกิจที่โดดเด่นในการรักษาความเป็นผู้นำตลาด ด้วยการขยายการให้บริการทางการเงินที่ครบวงจร การเปลี่ยนถ่ายไปสู่ระบบดิจิทัล การนำข้อมูลมาใช้วิเคราะห์กลุ่มลูกค้าเพื่อเพิ่มความพึงพอใจ รวมถึงการลดขั้นตอนการปฎิบัติงาน เชื่อมั่นในกลยุทธ์ของธนาคารที่มีเครือข่ายสาขาสินเชื่อโดยเฉพาะ และการมีข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าที่สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดร่วมกับบริษัทผู้ริเริ่มนวัตกรรมใหม่ๆ

สำหรับธนาคารได้รับการอนุญาตจัดตั้งเป็นธนาคารพาณิชย์เพื่อรายย่อยในปี พ.ศ. 2549 มุ่งเน้นการขยายธุรกิจประเภทสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์และสินเชื่อเพื่อธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี ด้วยการให้โอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนแก่ผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด ผู้ประกอบการขนาดเล็ก เจ้าของร้านอาหารรายย่อย รวมถึงอาชีพอิสระที่มีข้อจำกัดและไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ ธนาคารเป็นผู้นำตลาดสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ในประเทศไทย มีสินเชื่อคงค้างรวมกว่า 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ธนาคารไทยเครดิตฯ ได้พัฒนาเทคโนโลยีด้านระบบการวิเคราะห์สินเชื่อและระบบการติดตามทวงหนี้ และจะมีการเปิดให้บริการกระเป๋าเงินอิเลคทรอนิกส์ (e-wallet) ในครี่งปีหลังของปี พ.ศ. 2562 รวมถึงการเพิ่มบริการทางการเงินในระบบดิจิทัลใหม่ๆ


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment