ILM ยิ้มกำไรไตรมาส 1/2564 เด่น

ILMเผยไตรมาส 1/2564 กำไรสุทธิ 145.4 ล้านบาท เติบโต 23.0% YoY และ 1.7% QoQ รับยอดออนไลน์พุ่งทะยานต่อเนื่องยอด OEM เติบโตโดดเด่น

นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM เปิดเผยว่า ผลการดำเนินการไตรมาส 1/2564 มีกำไรสุทธิ 145.4 ล้านบาท เติบโต 23.0% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 1.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยมีรายได้รวม 2,146.7 ล้านบาท ลดลง 3.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ด้วยความสามารถของบริษัท ในการลดต้นทุนการดำเนินงานในทุกส่วนอย่างมีประสิทธิภาพ การลดต้นทุนทางการเงินของธุรกิจจากการ ชำระหนี้เงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงินก่อนกำหนด รวมถึงการลดสินค้าคงเหลืออย่างต่อเนื่อง ช่วยลดต้นทุนการเก็บรักษาและต้นทุนการจัดการ และช่วยเพิ่มรายได้ค่าเช่าจากการนำพื้นที่ว่างของโกดังสินค้าไปให้พันธมิตรเช่าดำเนินงาน ซึ่งการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกด้านนี้ได้ช่วยส่งเสริมให้กำไรของธุรกิจในไตรมาส 1/2564 เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง

ส่วนในสถานการณ์ที่ประเทศไทยมีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งล่าสุด ตั้งแต่เมื่อต้นเดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมา ถือเป็นการแพร่ระบาดที่รุนแรงและกว้างขวางกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาครัฐออกมาตรการต่างๆ เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศในไตรมาส 2/2564 บริษัท จึงยังต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุน รวมถึงต้องมีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อแก้ไขและบรรเทาผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัท ให้น้อยที่สุด

อย่างไรก็ตามบริษัท เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างโอกาสในการเพิ่มยอดขายจากกระแสการทำงานที่บ้าน หรือ Work from Home ซึ่งผู้บริโภคจะมีความต้องการสินค้ากลุ่ม Home Office เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งกระแสการตกแต่งบ้านจากการที่ต้องอยู่บ้านยาวนานมากขึ้น หรือการทำอาหารรับประทานเองที่บ้านมากขึ้น จะส่งผลบวกต่อยอดขายของเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวมากขึ้น โดยบริษัทฯ มีสินค้าหลากหลายประเภทเพื่อตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคในช่วงเวลาดังกล่าวได้อย่างครบถ้วน รวมถึงมีความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ค่อนข้างยากลำบากนี้เหมือนที่เคยทำได้ในอดีตอีกครั้ง และพร้อมกลับมาเติบโตได้อย่างมั่นคงเมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติในอนาคต หลังคาดการกระจายวัคซีนภายในประเทศสามารถบรรลุเป้าหมายได้ภายในปี 2564 จากความร่วมมือกันของทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่รัฐบาลทยอยออกมาให้ความช่วยเหลือทั้งภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจภายในประเทศกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment