รพ.พริ้นซ์ ศรีสะเกษพร้อมเปิดเมษายนนี้ตามแผนยึดบริการดี ราคาเข้าถึงได้

นายธานี มณีนุตร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการด้านงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) (PRINC) เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างโรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ เกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว คาดว่าจะเปิดให้บริการประชาชนจังหวัดศรีสะเกษและจังหวัดใกล้เคียงได้ภายในเดือนเมษายนนี้

สำหรับ โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ มีพื้นที่ 12 ไร่ ตั้งอยู่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ขนาด 59 เตียง นับเป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งที่ 2 ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างซึ่งมีการบริการด้านการแพทย์ที่โดดเด่นเฉพาะทางมากกว่า 20 สาขา ได้แก่ กุมารแพทย์ ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง, กุมารแพทย์เฉพาะทางด้านต่างๆ, แพทย์เฉพาะทางด้านโรคหัวใจ, โรคปอดและทางเดินหายใจ, โรคตา, โรคมะเร็ง, โรคทางเดินอาหาร, โรคทางระบบประสาทและหลอดเลือดในสมอง, ศัลยกรรมทั่วไปเฉพาะด้านศัลยกรรมเฉพาะทางโรคมะเร็งเต้านม, เฉพาะด้านศัลยแพทย์ทางเดินปัสสาวะ และนิ่วไต, เฉพาะด้านศัลยศาสตร์ตกแต่งและความงาม และบริการอื่น ๆ ที่หลากหลาย พร้อมด้วยอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย นับเป็นโรงพยาบาลเอกชนทางเลือกใหม่เพื่อให้พี่น้องชาวศรีสะเกษ ได้รับบริการทางการแพทย์ที่ดีในราคาที่เข้าถึงได้

ด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ กรรมการ บริษัท ศรีสะเกษเมดิเทค จำกัด ในฐานะพันธมิตรร่วมพัฒนา โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ กล่าวว่า การเป็นพันธมิตรมาจากความตั้งใจที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจังหวัดศรีสะเกษ ด้วยการให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ และได้มีโอกาสเดินทางไปศึกษาดูงานที่โรงพยาบาลพิษณุเวช อุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ และได้เห็นว่าเป็นโมเดลที่น่าสนใจ จุดนี้เองจึงกลายเป็นที่มาของการร่วมทุนดังกล่าว สามารถตอบโจทย์พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

ดังนั้น การมีโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำแห่งใหม่เกิดขึ้นภายในจังหวัด นอกจากจะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ประชาชนในจังหวัดศรีสะเกษที่มีอยู่กว่า 1 ล้านคน ได้เข้าถึงการรักษาได้อย่างสะดวกแล้ว เชื่อว่าเป็นการช่วยแบ่งเบาความแออัดของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ และเป็นทางเลือกการรักษาให้กับประชาชนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ กัมพูชา ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้บุคลากรทางการแพทย์ทำงานในจังหวัดบ้านเกิดของตนเอง มีรายได้ไม่ต่างจากการทำงานในเมืองใหญ่ มีเวลาดูแลครอบครัวเพิ่มมากขึ้น รวมถึงให้โอกาสบุคลากรที่ทำงานอยู่ต่างพื้นที่ได้มีโอกาสกลับมาทำงานที่บ้านเกิดของตนเองอีกด้วย