{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
ธนาคารกสิกรไทยเผยปี 63 เสนอ5แผนลงทุน ผนึกกำลังพันธมิตรระดับโลก Lombardเปิดเคาน์เตอร์กลางห้างใหญ่ ยกระดับPrivate Banking
นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group Head ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากตัวเลขเศรษฐกิจโลกที่ส่งสัญญาณชะลอตัวลงต่อเนื่อง แต่ธนาคารคาดว่าจะยังไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอีก 12 เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ในส่วนของตลาดทุนโลกปีหน้า ยังผันผวนสูงต่อเนื่อง ความตื่นตระหนกของตลาดจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การลงทุนจะทำได้ยากลำบากขึ้น โดยความเสี่ยงสำคัญจะมาจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ทั้งจากข้อพิพาททางการค้า และการเลือกตั้งสหรัฐฯในปี 2563 ธนาคาร ได้รวบรวม 5 กลยุทธ์การลงทุนที่จะแนะนำลูกค้าในปีหน้า ได้แก่ 1. กระจายความเสี่ยงและเพิ่มความคล่องตัวของพอร์ต 2. ป้องกันพอร์ตด้วยสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ และกลยุทธ์การลงทุนแบบ Hedged Fund ที่ใช้กลยุทธ์การ Long และ Short หุ้นพร้อมๆ กัน 3. เน้นกลยุทธ์ Carry ในกลุ่ม High Yield ที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่า 4. ระมัดระวังกับการลงทุนในหุ้น โดยควรเลือกกลุ่มธุรกิจที่ยังมีการเติบโตของกำไรสุทธิที่ดี เช่น หุ้นในกลุ่มเฮลท์แคร์ เทคโนโลยี และพลังงาน ไปจนถึง หุ้นประเทศตลาดเกิดใหม่บางประเทศยังน่าสนใจ 5. สร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมในสินทรัพย์ทางเลือกอย่างอสังหาริมทรัพย์ หุ้นนอกตลาด และโครงสร้างพื้นฐานอาจที่มีความผันผวนทางด้านราคาตามตลาดน้อยกว่า แต่เหมาะสำหรับก้อนเงินลงทุนที่สามารถทิ้งไว้ได้ระยะยาว 5 ปีขึ้นไป และเป็นแค่ส่วนน้อยของพอร์ตเท่านั้น
โดยธนาคารยังสานต่อการให้บริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคลที่ครบถ้วนที่สุดในประเทศไทย พร้อมผสานความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ระดับโลกอย่าง Lombard Odier อย่างแข็งแกร่งมากขึ้น เตรียมเปิด KBank Private Banking Lounge แห่งแรก ณ ห้างสรรพสินค้า เอ็มควอเทียร์ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้า เพราะอยู่ในจุดที่ลูกค้ามาเป็นประจำ และอยู่ในอาคารเดียวกับสำนักงานด้วย อีกทั้งยังเป็นการเพิ่ม Brand Visibility ตอกย้ำความร่วมมือกับ Lombard Odier
ทั้งนี้ในปี 2562 ธนาคารเน้นพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ลงทุน เพื่อบริหารความเสี่ยง สร้างผลตอบแทน และเพิ่มความหลากหลาย ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกช่วงปลายวัฏจักร (Late Cycle) ซึ่งมองว่าเป็นโอกาสดีที่จะให้แนะนำลูกค้าปรับพอร์ตการลงทุน (K-Alpha) โดยให้ความสำคัญกับการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง ผ่านกลยุทธ์กองทุนแบบผสมที่ใช้กรอบความเสี่ยงควบคุม (Risk-based allocation) ควบคู่กับการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก (Alternatives) อย่างทองคำ และหุ้นนอกตลาด ให้ความเสี่ยงอยู่ในระดับสมดุล เห็นได้จากการเติบโตของพอร์ต K-Alpha ถึง 12.5% โดยที่ความเสี่ยงของพอร์ตอยู่ที่ 4.5% เท่านั้น จึงทำให้ผลตอบแทนต่อหนึ่งหน่วยความเสี่ยงของพอร์ต K-Alpha สูงถึง 2.8 เท่า
จากนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการที่แนะนำ ทำให้ได้รับรางวัลด้านไพรเวทแบงก์ รวม 14 รางวัล จาก 9 สถาบันระดับสากลทั่วโลก อาทิ Best Private Bank ในประเทศไทย จากหลายสถาบัน เช่น Asian Private Banker, Finance Asia และ The Asset รวมถึงการเป็น Best Private Bank ในภูมิภาค ASEAN จากสถาบัน The Digital Banker นอกจากนี้ธนาคารฯ ยังได้รางวัล Outstanding RM Training and Development Program จาก Private Banker International Global Wealth Summit and Awards 2019 สะท้อนถึงความเป็นผู้นำด้านการพัฒนาพนักงาน อีกทั้งยังเป็นที่หนึ่งด้านการใช้เทคโนโลยีในธุรกิจไพรเวทแบงก์ ด้วย Outstanding Wealth Management Technology Initiative - Back Office จากสถาบันข้างต้น และอีก 2 รางวัลจากสถาบัน PWM's second annual Wealth Tech Awards คือรางวัล Best Private Bank for Digital Culture Asia และ รางวัล Best Private Bank for Digitally Empowering Relationship Managers Asia
สำหรับผลการดำเนินธุรกิจ KBank Private Banking ในปี 2562 ยังเติบโต โดยมีจำนวนลูกค้า 11,600 ราย สินทรัพย์ภายใต้การจัดการทั้งหมดประมาณ 7.5 แสนล้านบาท มีสินทรัพย์ลงทุนรวมถึง 4.5 แสนล้านบาท เติบโตขึ้น 7% และ มีสินทรัพย์ลงทุนซับซ้อน เติบโตขึ้นถึง 24.7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS