{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
แบงก์เพอร์มาตา ในเครือธนาคารกรุงเทพ ชวนนักธุรกิจไทยรุกตลาดอินโดนีเซีย เชื่อเป็นโอกาสทองของธุรกิจที่ต้องการเติบโตสู่ระดับภูมิภาค ชี้เทรนด์ ESG มาแรงในอินโดนีเซีย หวังดึงจุดแข็งด้านการเงินสีเขียว ตอบโจทย์ความยั่งยืนสู่เป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2060
นางเมลิซา รุสลี กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพอร์มาตา อินโดนีเซีย ในเครือธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นกลับมาเติบโตอีกครั้ง ภูมิภาคอาเซียนถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายการลงทุนที่สำคัญ โดยเฉพาะอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน นับเป็นโอกาสสำคัญสำหรับธุรกิจในอาเซียนและประเทศไทยที่จะเริ่มเปิดตลาดเข้าสู่การค้าการลงทุนระหว่างประเทศไปยังประเทศอินโดนีเซีย โดยธนาคารเพอร์มาตา มีศักยภาพและความพร้อมสนับสนุนธุรกิจ ผ่านผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินสำหรับธุรกิจในรูปแบบต่างๆ ตลอดจนบริการทางการเงินส่วนบุคคลให้กับนักลงทุนและพนักงานในบริษัทเหล่านั้นด้วยแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ทุกธุรกรรมการเงินเป็นเรื่องง่าย พร้อมสาขาอีก 216 แห่งทั่วอินโดนีเซีย
ขณะเดียวกัน ธนาคารจะอาศัยจุดแข็งภายใต้ความร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพ (Cross-selling synergy) เพื่อสนับสนุนการจับคู่ธุรกิจให้เกิดความร่วมมือกับพันธมิตรที่เหมาะสมสำหรับการเติบโตของลูกค้า และผลักดันให้กระบวนการค้าระหว่างประเทศภายใต้การสนับสนุนจากรัฐบาลของสมาชิกอาเซียน ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นประโยชน์ให้แก่ลูกค้าทั้งสองธนาคารอย่างเต็มที่ เสมือนเป็น “เพื่อนคู่คิด” ที่อยู่เคียงข้างและคอยสนับสนุนการเติบโตให้แก่ลูกค้า
“เรากำลังสื่อสารและทำความเข้าใจกับลูกค้าเพื่อให้เห็นถึงความสำคัญของการมีกลยุทธ์การทำธุรกิจในระดับภูมิภาค หรือ Regionalization โดยเฉพาะการเริ่มต้นเปิดตลาดเข้าสู่ประเทศอินโดนีเซียที่มีศักยภาพการเติบโตในประเทศสูงมาก ในเวลาเดียวกัน ตอนนี้ธุรกิจในอินโดนีเซียเองก็ต้องเร่งพัฒนาศักยภาพตัวเองเพื่อดึงดูดการลงทุนจากอาเซียนโดยเฉพาะไทยเช่นกัน เราเชื่อมั่นว่าธุรกิจท้องถิ่นที่เริ่มปรับกลยุทธ์ไปสู่การเป็นธุรกิจในระดับภูมิภาคได้เร็วเท่าไหร่ จะยิ่งเป็นประโยชน์ในระยะยาวได้มากกว่าธุรกิจที่ตัดสินใจช้า”
นางเมลิซา ยังกล่าวอีกว่า ภายใต้ความร่วมมือระหว่างธนาคารเพอร์มาตา และธนาคารกรุงเทพนั้น มิได้จำกัดอยู่เพียงมิติด้านการค้าและการลงทุนเท่านั้น หากแต่มีความร่วมมือกันทำงานเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงทั้งสองประเทศมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะระบบชำระเงินข้ามพรมแดนผ่าน QR code cross-border payment และ บริการเทรดไฟแนนซ์ นอกจากนี้ ธนาคารเพอร์มาตายังทำงานร่วมกับลูกค้าของธนาคารกรุงเทพอีกด้วย โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับกลุ่มเดอะมอลล์ เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้แก่สมาชิกบัตรเดรดิตของธนาคารเพอร์มาตาสำหรับการใช้จ่ายผ่านร้านค้าในเครือเดอะมอลล์ที่ประเทศไทยอีกด้วย
นางเมลิซา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ปัจจุบันธุรกิจในอินโดนีเซียกำลังให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่องความยั่งยืนเป็นอย่างมาก ด้วยระบบนิเวศที่หลากหลาย ทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และประชากรที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้น การพัฒนาอย่างยั่งยืนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยปกป้องอนาคตของคนรุ่นต่อไป ปัจจัยดังกล่าว นับเป็นโอกาสสำคัญสำหรับธนาคารเพอร์มาตาที่เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธนาคารกรุงเทพ ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในระดับภูมิภาคเกี่ยวกับบริการด้านการเงินสีเขียว (Green Financing) และการจัดหาเงินทุนเพื่อเปลี่ยนผ่านธุรกิจไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งในด้านการให้คำแนะนำแก่ลูกค้าองค์กรเพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ๆ การกำหนดและจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) และการปรับปรุงรูปแบบธุรกิจให้สอดคล้องกับกฎระเบียบด้าน ESG ที่เข้มงวดมากขึ้น
โดยอินโดนีเซียมีวิสัยทัศน์ที่แน่วแน่ที่จะก้าวขึ้นเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกภายในปี 2045 ด้วยปัจจัยสนับสนุนมากมาย ทั้งโครงสร้างประชากรที่เอื้อต่อการเติบโต ชนชั้นกลางที่กำลังขยายตัว มีธุรกิจสตาร์ทอัปที่กำลังเติบโต และทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ตลอดจนศักยภาพการเติบโตอีกมากมายในฝั่งธุรกิจดิจิทัล พลังงานหมุนเวียน สาธารณสุข ห่วงโซ่อุปทาน และการผลิตในอุตสาหกรรมใหม่ๆ อย่าง ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่จะเป็นอีกหนึ่งการลงทุนด้วยเม็ดเงินมหาศาลมาสู่อินโดนีเซีย
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS